“พาณิชย์” ประสาน “พลังงาน” พิจารณาปรับลดใช้น้ำมันปาล์มผลิตไบโอดีเซลจากบี 7 เหลือบี 5 ตั้งแต่ ก.ค.เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดบริโภค ยันภัยแล้งทำผลผลิตลดลง แต่ขณะนี้เริ่มดีขึ้น หลังฝนตก ส่วนราคาปาล์มดิบปล่อยตามกลไกตลาด ถ้าต่ำกว่า กก.ละ 4.20 บาทเมื่อใด พร้อมเข้าแทรกแซง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมัน ว่ากระทรวงพาณิชย์เตรียมประสานกระทรวงพลังงานเพื่อให้พิจารณาปรับลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล จากบี 7 เหลือ บี 5 ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2559 ตามมาตรการบริหารจัดการน้ำมันปาล์มในประเทศ เพื่อให้มีความสมดุลกับปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันในขณะนี้ เนื่องจากผลผลิตได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ปาล์มน้ำมันลดลงไปร้อยละ 20 โดยผลผลิตปาล์มน้ำมันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดไว้จะอยู่ที่ 10.94 ล้านตัน
สำหรับความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพื่อผลิตบี 7 นั้น ปกติจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 80,000 ตัน แต่เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพิ่มเป็น 88,000-90,000 ตันต่อเดือน กระทรวงพาณิชย์เห็นว่าควรจะใช้การปรับสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลลง เพื่อไม่ให้กระทบกับน้ำมันเพื่อการบริโภค
“มาตรการนี้จะช่วยสร้างความสมดุลในการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศไม่ให้ขาดแคลน และไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันขวดที่กรมการค้าภายในกำหนดเพดานราคาควบคุมไว้ที่ 42 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบันสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่เหมาะสมอยู่ที่ 220,000 ตัน ในขณะที่มีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคที่ 80,000 ตันต่อเดือน”
ส่วนความกังวลเรื่องผลผลิตปาล์มที่ลดน้อยลงจากภัยแล้ง ขณะนี้ปริมาณผลผลิตเริ่มดีขึ้น หลังจากเริ่มมีฝนตก และความกังวลเรื่องเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มก็ลดลง และเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้วเช่นเดียวกัน จึงทำให้สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงและสามารถบริหารจัดการได้ โดยราคาผลปาล์มสดขณะนี้อยู่ที่ 5.50-5.60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17%
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดูแลราคาปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ได้กำหนดมาตรการไว้ว่า หากราคาปาล์มไม่ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อ กก. (น้ำมัน 17%) ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่หากราคาตกต่ำกว่ากก.ละ 4.20 บาท ก็จะมีมาตรการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้ามาแทรกแซง
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนปฏิรูปการผลิตและการตลาดปาล์มน้ำมันแบบครบวงจร โดยเป็นแผน 20 ปี เพื่อให้การผลิตปาล์มน้ำมันของไทยมีประสิทธิภาพ โดยจะสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้สูงขึ้นถึงระดับร้อยละ 19-20 และเพิ่มการใช้ไบโอดีเซลเป็นบี 10 ในอนาคต เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และยังจะเน้นการพัฒนานวัตกรรมในการผลิตเป็นโอลิเคมีคอลเพื่อเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม โดยจะมีแผนพัฒนาด้านการลงทุนในอนาคตเพื่อขับเคลื่อนในระยะยาว ซึ่งจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติในเร็วๆ นี้