กรมการค้าภายในชง “อภิรดี” ไฟเขียวแผนปฏิรูปปาล์มน้ำมันครบวงจร 20 ปี ตั้งแต่ผลิตจนถึงแปรรูป ก่อนชง “บิ๊กป้อม” ไฟเขียว หวังยกระดับคุณภาพชีวิตชาวสวน และพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบให้โตยั่งยืน เชื่อใน 5 ปีเลิกคุมราคาขายปาล์มขวดแน่นอน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 20 มิ.ย.นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาดปาล์มน้ำมัน ที่มีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแผนปฏิรูปการผลิต และการตลาดปาล์มน้ำมันแบบครบวงจร ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการปฏิรูปปาล์มน้ำมัน ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน จากนั้นจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบต่อไป
สำหรับแผนการปฏิรูปปาล์มจะกำหนดเป็นแผน 20 ปี แบ่งเป็นแผนระยะสั้น กลาง และยาว เช่นเดียวกับแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยแผนระยะสั้น ในเวลา 5 ปีจะส่งเสริมให้เกษตรกรปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ให้มีผลผลิตต่อไร่มากขึ้นใกล้เคียง หรือเท่ากับมาเลเซีย ที่ปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่ 3.8-4.5 ตัน/ไร่ แต่ของไทยราว 3.3-3.5 ตัน/ไร่, ลดต้นทุนการผลิต, ผลิตให้ปริมาณสอดคล้องกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะในแผนนี้จะผลักดันให้นำน้ำมันปาล์มมาผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลให้มากขึ้น และจะส่งเสริมให้โรงสกัดแปรรูปน้ำมันปาล์มไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่าน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เช่น ทำเป็นโอลิโอเคมีคอล ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมสี ใช้สกัดเป็นยาปฏิชีวนะ ผลิตเครื่องสำอาง หรือเป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด เป็นต้น
“ต่อไปรัฐจะไม่บอกว่าแต่ละปีเกษตรกรต้องผลิตเท่าไร จะลด หรือเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก แต่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นคนบอกว่าพื้นที่ใดเหมาะสมจะปลูกปาล์มหรือไม่ โดยคาดว่าความต้องการใช้จะเพิ่มขึ้นแน่ เพราะจะส่งเสริมให้นำน้ำมันปาล์มไปแปรรูปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม แผนปฏิรูปฯ จะไม่ซ้ำซ้อนกับ พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่อยู่ระหว่างการยกร่าง เพราะจะนำเนื้อหาสาระบางส่วนของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมาบรรจุอยู่ในแผนปฏิรูปฯ ด้วยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวสวนปาล์ม และทำให้อุตสาหกรรมการผลิตปาล์มของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการได้ตามแผนปฏิรูปฯ ภายใน 5 ปี กระทรวงพาณิชย์ไม่จำเป็นต้องกำหนดราคาแนะนำผลปาล์มสด และน้ำมันปาล์มดิบ รวมทั้งไม่ต้องกำหนดราคาเพดานน้ำมันปาล์มขวดแน่นอน เพราะเมื่อมีการใช้มากขึ้นราคาผลผลิตจะสูงขึ้น และราคามีเสถียรภาพมากขึ้น เป็นไปตามกลไกตลาด