ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดงบโฆษณายังโงหัวไม่ขึ้น ผู้ประกอบการดิ้นงัดสื่อใหม่ปลุกตลาด “เน็กซ์” จับมือ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ส่งสื่ออินสโตร์เรดิโอรูปแบบใหม่ล่าสุด “เรดิโอ พลัส” สร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายที่สูงขึ้น ชี้ลูกค้าได้รับฟังข้อมูลผลิตภัณฑ์และโปรโมชันแบบเรียลไทม์ในพื้นที่ช่วยส่งเสริมการขายของลูกค้าโดยเฉพาะ SMEs ด้าน “บีลิงค์” เร่งขยายพื้นที่สื่อเพิ่มเติม พร้อมซุ่มโมเดลสื่อนอกบ้านแบบใหม่ ก่อนเดินหน้าเข้าตลาดหุ้น mai ปี 2561
ตลาดงบฯ โฆษณาของเมืองไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2559 ยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเช่นเคย เพราะตลาดรวมตกลงมากถึง 8% คือมีมูลค่าเพียง 4.6 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้น ลดจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาท โดยผู้ประกอบการสื่อต่างพยายามงัดกลยุทธ์การตลาดมานำเสนอ รวมไปถึงการเปิดตัวสื่อใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงดึงดูดสินค้าให้มาลงโฆษณา
“เน็กซ์” ผนึกเซเว่นฯ เปิดสื่อใหม่
นายวิญญลักษณ์ โสรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็น.อี.เอ็กซ์.ที จำกัด หรือ “เน็กซ์” (N.E.X.T) ผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านสื่อวิทยุอินสโตร์เรดิโอ (In-Store Radio) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวนวัตกรรมด้านสื่อวิทยุภายในร้านสะดวกซื้อรูปแบบใหม่ล่าสุด คือ “เรดิโอ พลัส” (Radio Plus) โดยร่วมกับ “เซเว่นอีเลฟเว่น” เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากรูปแบบการให้บริการเดิมของ “เน็กซ์” ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 15 ปีที่เรียกว่า “อินสโตร์เรดิโอ” สื่อวิทยุที่จะได้ยินกันในโมเดิร์นเทรดชั้นนำของเมืองไทย
นวัตกรรม “เรดิโอ พลัส” เป็นความก้าวหน้าในการใช้ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้บริการเพื่อนำมาประมวลสั่งการปล่อยโฆษณา ทั้งยังทรงประสิทธิภาพในส่วนงานระบบด้านการควบคุม การตรวจสอบ และรายงานผลข้อมูลแก่ลูกค้าทั้งจำนวนการเข้าออกผู้ใช้บริการและจำนวนการออกอากาศโฆษณาตามเวลาจริงได้อย่างถูกต้องครบถ้วนหลังการออกอากาศ โดยขณะนี้ได้ทำการจดสิทธิบัตรในนาม “ระบบควบคุมและจัดการเครื่องเล่นสื่อดิจิตอลผ่านเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ” จากกองสิทธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้จับมือร่วมกับ “เซเว่นอีเลฟเว่น” นำนวัตกรรมความบันเทิงผ่านเสียงเพลงล่าสุดนี้ไปติดตั้งเป็นรายแรกและรายเดียว
นายวิญญลักษณ์กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีทีมงานมืออาชีพและมีประสบการณ์สูงร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีและคิดค้นวิธีการในการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่และประเภทช่องทางที่ได้ออนแอร์จนเกิดเป็นสื่อบริการที่เหมาะกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ “เซเว่นอีเลฟเว่น” โดยเฉพาะ โดยได้มีการนำระบบเซ็นเซอร์มาใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้บริการ เพื่อสั่งออกอากาศโฆษณาเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอในทันที เช่น ปล่อยโปรโมชั่นของสินค้า เมื่อผู้ซื้อเปิดประตูทางเข้าออก หรือกำลังเดินผ่านบริเวณตู้แช่สินค้าทันที เป็นต้น
“ในขณะนี้เราได้คัดเลือกสาขาของเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและมียอดขายสูงมาเป็นหลัก โดยดำเนินการติดตั้งบริการและจัดการเรื่องระบบให้เสร็จสิ้นซึ่งตั้งเป้าตามแผนงานไว้ภายในเดือนมิถุนายน 59 โดยในระยะแรกติดตั้งจำนวน 2 พัน สาขาและจะขยายจำนวนสาขาให้มากที่สุดในอนาคต”
นายวิญญลักษณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ความโดดเด่นของ “เรดิโอ พลัส” ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อกลุ่มลูกค้าลงโฆษณาที่มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายใน “เซเว่นอีเลฟเว่น” เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์หรือองค์กรต่างๆ ที่ต้องการจะสื่อสารจะกับกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อเหล่านี้ได้รับทราบโดยตรง อาทิ ธุรกิจสายการบิน บัตรเครดิต อุปกรณ์สื่อสาร ยานยนต์ หรือแม้กระทั่งหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อันเป็นผลมาจากความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้จ่ายใน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ก่อให้เกิดโอกาสการรับรู้ที่ทั่วถึงสู่ผู้คนในทุกไลฟ์สไตล์
จากศักยภาพการทำงานของระบบ “เรดิโอ พลัส” ในรูปแบบต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อแบรนด์ที่มองเห็นช่องทางสื่อสารและทำโฆษณาร่วมกันนี้ จะนำไปสู่ยอดขายที่เติบโตและภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าถึงได้ง่าย มีความหลากหลาย และเป็นแหล่งรวมข้อมูลสำหรับการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคให้แก่ “เซเว่นอีเลฟเว่น” โดยตรงซึ่งในระยะยาวจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคแน่นอน
“ในส่วนของยอดขายนั้นเราได้เห็นการขยับตัวพุ่งสูงขึ้นชัดเจนในช่วงต่างๆ เช่น ในชาวงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาบางแบรนด์สามารถทำยอดเพิ่มถึง 10-30% จากข้อมูลทั้งหมดถือได้ว่าทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองและส่วนของผู้บริโภคที่จะเกิดการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและประหยัดขึ้นหลังการฟังข้อมูลก่อนซื้อ”
“ธุรกิจอินสโตร์เรดิโอถือเป็นสื่อที่ดีที่สุดสื่อหนึ่งที่สามารถเข้าถึงและกระตุ้นให้กลุ่มที่มีกำลังซื้อได้มีทางเลือกหลากหลายขึ้น เพราะเมื่อเกิดการใช้สอยก็จะเกิดการขยับขับเคลื่อนของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกฝ่ายต่างเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องจับตาดูสถานการณ์กันว่าจะเป็นไปในทิศทางใดในระยะใกล้ๆ นี้ ฉะนั้น การนำเสนอบริการของ เน็กซ์ จึงพยายามคิดให้มากเพื่อการเติบโตร่วมกันไปทุกภาคส่วน ตามนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้การพัฒนาเป็นไปแบบก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เราจึงพยายามคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมรวมถึงกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างผลกำไรสะท้อนกลับไปสู่ทุกฝ่าย” นายวิญญลักษณ์กล่าวในที่สุด
ด้าน นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ “เซเว่นอีเลฟเว่น” นำนวัตกรรม Radio Plus เข้ามาใช้ นอกจากเพื่อการสื่อสารสาระข้อมูลอันเป็นสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าพึงได้แล้ว ยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีภายในร้าน ผ่านเสียงเพลงให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้เพลิดเพลินขณะที่อยู่ในร้าน และนำนวัตกรรมอุปกรณ์เครื่องเสียงติดระบบเซ็นเซอร์เข้ามาติดตั้ง โดยเมื่อลูกค้าเข้าร้านระบบเซ็นเซอร์จะทำงานก็จะได้รับข่าวสารที่เป็นประโยชน์สลับกับเสียงเพลงที่เพลิดเพลิน ด้านพนักงานเมื่อไม่มีลูกค้าระบบก็จะเปิดเพลงอย่างเดียวเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงาน ส่วนด้านสินค้าต่างๆ ที่มาลงโฆษณาก็มั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่โฆษณาได้ออกอากาศจะมีลูกค้าได้รับฟังโฆษณาซึ่งประโยชน์ต่อลูกค้าเป็นสำคัญ
“บีลิงค์” ขยาย OHM โมเดลใหม่
ขณะที่ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้นำตลาดการทำ Campus Marketing ครองพื้นที่สื่อโฆษณาภายในมหาวิทยาลัยมากกว่า 85% ป้ายโฆษณามากกว่า 600 ป้ายภายใน 35 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ มีจอ LED มากกว่า 300 จอใน 15 มหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพฯ และยังมีซุ้มประตูโฆษณาขนาดใหญ่มากกว่า 40 ซุ้มโฆษณาในมหาวิทยาลัย รวมทั้งเป็นผู้บริหารสื่อโฆษณาในอาคารวรรณสรณ์, อาคารเอ็มเพลส และอาคาร Haha ซึ่งทั้ง 3 อาคารถือเป็นอาคารที่รวบรวมสถาบันกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวบรวมเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายกว่า 2.5 แสนคน พร้อมทั้งทำแคมเปญทางการตลาดครบวงจร เพื่อให้บริการกับลูกค้าแบบ One Stop Service นำโดย นายธนชัย ถนอมทรัพย์ ที่เพิ่งจะรับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ สืบต่อจากพี่ชาย นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ ซึ่งไปรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ดูแลภาพรวมของบริษัทฯ และเตรียมความพร้อมก่อนนำพาบริษัทฯ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2561
นายธนชัย ถนอมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด กล่าวว่า ในปี 2559 ภาวะเศรษฐกิจยังถือว่าไม่ดีนัก ลูกค้าต่างตัดงบโฆษณาธุรกิจป้ายบิลบอร์ด หรือสื่อ Out of Home Media บางประเภท ทำให้มีลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ในส่วนของมีเดียโฆษณาของบริษัทฯ ซึ่งเป็น Out of Home Media ประเภท Target Base ยังคงเป็นมีเดียที่มีกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารอย่างชัดเจน มีการเติบโตอย่างมาก สะท้อนจากลูกค้าที่ลงโฆษณาทำให้พื้นที่สื่อโฆษณาของบริษัทฯ เต็มเกือบ 100%
โดยเฉพาะสื่อโฆษณาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยและสื่อโฆษณาที่อยู่ในอาคารวรรณสรณ์ ยกเว้นสื่อโฆษณาในตลาดนัดศูนย์อาหาร เน้นคนทำงานในโซน CBD ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้าบางคนเปลี่ยนจากการลงโฆษณาในป้ายบิลบอร์ด หรือสื่อ Out of Home ที่เป็นสื่อแมสมาใช้สื่อนี้แทน แต่ก็มีลูกค้าบางรายที่เคยลงโฆษณากับบริษัทฯ แล้วเปลี่ยนไปลงสื่อแมส เนื่องจากสินค้ามีความแมสมากขึ้น ประกอบกับในปีนี้มีงบโฆษณาที่ลดน้อยลง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะปิดยอดขายได้ประมาณ 120 ล้านบาท
“ในช่วงไตรมาสสามบริษัทฯ เซ็นสัญญากับบางมหาวิทยาลัยเพื่อขยายพื้นที่มีเดียสื่อโฆษณาในมหาวิทยาลัยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทั้ง 2 วิทยาเขต เป็นต้น”
นโยบายและทิศทางบริษัทฯ ในปีนี้ตลอดจนถึงปี 2560 จะเน้นใน 2 ส่วน คือ การขยายมีเดียในพื้นที่เดิมที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ แต่จะขยายมีเดียให้มีพื้นที่โฆษณามากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนที่ 2 คือ การขยายมีเดียใหม่แต่ยังคงเป็นมีเดียประเภท Out of Home Media ซึ่งยังคงคาแรกเตอร์มีเดียประเภท Target Base ตลอดจนการหาพันธมิตรทางธุรกิจในส่วนของธุรกิจโฆษณาในโลกออน์ไลน์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภท Digital Agency ที่บริษัทฯ ยังขาดอยู่ หรือการหาพันธมิตรทางธุรกิจในส่วนของเว็บไซต์ หรือออนไลน์มีเดียบางประเภท ซึ่งมี Target Base ที่ชัดเจน ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญมากและพร้อมที่จะเข้าไปลงทุน
นายธนชัยยังกล่าวถึงแผนการลงทุนธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศว่า บริษัทฯ ได้มีนโยบายต่อยอดธุรกิจในการจะเปิดธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศแถบ CLMV ซึ่งปัจจุบันได้ขยายเข้าไปทำธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศพม่าแล้ว โดยปัจจุบันมีป้ายโฆษณาในกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า กว่า 30 ป้าย และในปีนี้จะขยายธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาไปยังเมืองเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น เมืองมัณฑะเลย์ และเมืองตองยี เป็นต้น ส่วนในปี 2560 จะเริ่มขยายธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ตั้งเป้าหมายในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2561 โดยปัจจุบันได้มอบหมายให้ บริษัท เอเซีย พลัส จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนในการขยายธุรกิจต่อไป