ผู้จัดการรายวัน 360 - “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ชูกลยุทธ์ “ครอสมาร์เกตติ้ง” ครั้งแรกสู้ศึกฟิตเนส ผนึก “ไอ สตูดิโอ” ผ่าน 4 ดีลเลอร์ใหญ่ขยายฐานกลุ่มคนรักสุขภาพและเทคโนโลยี
นางสาวอรวรรณ เกลียวปฏินนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการฟิตเนสแบรนด์ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” เปิดเผยว่า ตลาดฟิตเนสในไทยช่วงครึ่งแรกปี 2559 มีการแข่งขันกันอย่างมาก ล่าสุดได้ใช้กลยุทธ์ “ครอสมาร์เกตติ้ง” (Cross Marketing) เป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่คือ “ไอ สตูดิโอ” ผ่าน 4 ดีลเลอร์รายใหญ่ในประเทศไทย ประกอบด้วย เอส พี วี ไอ, คอปเปอร์ไวด์, คอมเซเว่น และยูเอฟไอคอน เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและชื่นชอบเทคโนโลยี
ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยกันต่อยอดกลยุทธ์ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี ด้วยจุดแข็งของ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” ที่มีสมาชิกกว่า 7.5 หมื่นคนทั่วประเทศที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และมีไลฟ์สไตล์ที่รักการออกกำลังกาย ขณะที่ “ไอ สตูดิโอ” เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและมีสาขามากถึง 126 สาขาทั่วประเทศ (แยกเป็นร้านไอสตูดิโอ 28 สาขา และร้านไอบีทส์ 98 สาขา) ทำให้เป็นการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ด้วย
สำหรับความร่วมมือนั้น “ฟิตเนส เฟิรส์ท” จะแจกคูปองจำนวน 1.2 หมื่นใบให้สมาชิกของ “ไอ สตูดิโอ” เพื่อมาทดลองใช้บริการและเล่นฟิตเนสฟรี 14 วัน และพร้อมรับเพิ่มฟรี 1 เดือน เมื่อสมัครสมาชิกรายปี ซึ่งคาดว่าจำนวน 20% ที่แจกจะมาใช้และสมัครเป็นสมาชิก ส่วน “ไอ สตูดิโอ” จะแจกคูปองจำนวน 1 หมื่นใบ เพื่อให้สมาชิกของ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” มาใช้ซื้อสินค้าเป็นส่วนลด เช่น ส่วนลด 500 บาทเมื่อซื้ออุปกรณ์เสริมเมื่อซื้อ “แอปเปิล วอตช์ สปอร์ต” ราคาเริ่มต้นที่ 1.35 หมื่นบาท และรับส่วนลด 7 พันบาท เมื่อซื้อ “แอปเปิล วอตช์ สเตนเลสสตีล” เฉพาะรุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 2.05 หมื่นบาท เหลือ 1.35 หมื่นบาทตามเงื่อนไข
ปัจจุบัน “ฟิตเนส เฟิรส์ท” มีสมาชิกประมาณ 7.5 หมื่นราย โดยมีสมาชิกเข้าใช้บริการเฉลี่ย 1.4 หมื่นคนต่อวันในทุกสาขารวมกันคือ 28 สาขา ซึ่งคาดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มจากกลยุทธ์พันธมิตรมากขึ้นประมาณ 10% จากปกติโดยเฉลี่ยแล้วจะมีสมาชิกเข้ามาใหม่ 4 พันรายต่อเดือน
ก่อนหน้านี้ นายมาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด เคยกล่าวไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า หลังจากที่ได้รีแบรนด์ “ฟิตเนส เฟิรส์ท” เมื่อกลางปี 2557 ส่งผลให้ปริมาณการใช้คลับของสมาชิกเพิ่ม 7% หรือประมาณ 1.6 หมื่นครั้งต่อวันทุกสาขา เพราะมีการเพิ่มกิจกรรมทางเลือกผ่านคลับรูปแบบใหม่ จำนวนคลาสเพิ่ม 67% ต่อวัน หรือจาก 2,580 เป็น 4,331 คลาสต่อสัปดาห์ในปีที่ผ่านมา
ล่าสุดได้เปิดตัวดิจิตอลแพลตฟอร์มครั้งแรกของธุรกิจฟิตเนส ด้วยงบลงทุน 225 ล้านบาท พัฒนาแอปพลิเคชัน CustomFit ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นจากความเข้าใจพฤติกรรมเชิงจิตวิทยาของสมาชิกและไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน และยังได้เปิดตัว BioScore ซึ่งเป็นโปรแกรมการตรวจสุขภาพอีกด้วย
“ในปีนี้ได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 750 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯ ในการปรับโฉมสาขาเดิม 18 สาขา และเปิดสาขาใหม่ 200 ล้านบาท ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีได้เปิดแล้ว 2 สาขาที่เดอะ พรอมานาด และเดอะ คริสตัล รามอินทรา โดยมีแผนจะเปิดอีก 1 สาขาในกรุงเทพฯ พร้อมตั้งเป้าเติบโต 12% และเพิ่มจำนวนสมาชิกเป็น 7.8 หมื่นคน ตลอดจนต้องการให้สมาชิกมาออกกำลังกายที่คลับอย่างสม่ำเสมอ โดยมีเป้าหมายไม่น้อยกว่า 6.3 ล้านเช็กอินต่อปี” นางสาวอรวรรณกล่าวในที่สุด