ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติ THAIFEX - World of Food Asia 2016 ล้นอิมแพ็ค เมืองทองธานี “รองนายกฯ สมคิด” แนะผู้ประกอบการไทยเพิ่มคุณค่าผ่านนวัตกรรมต่างๆ หลังตัวเลขการส่งออกอาหารยังเป็นวัตถุดิบถึง 45% จากสินค้าอาหารไทยติด 5 อันดับแรกในตลาดโลกด้วยมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติ THAIFEX - World of Food Asia 2016 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี วานนี้ (วันที่ 25 พ.ค. 59) ว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและเป็นงานสำคัญของภูมิภาคเอเชีย โดยมีผู้ประกอบการในวงการอุตสาหกรรมอาหารจากทุกมุมโลกเข้าร่วมงานมากกว่า 33 ประเทศ
อุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2558 สามารถสร้างรายได้มากกว่า 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9 แสนล้านบาท คิดเป็น 12.3% ของการส่งออกทั้งหมด คิดเป็น 6.7% ของ GDP โดยสินค้าอาหารไทยยังมีมูลค่าการส่งออกสูงใน 5 อันดับแรกของตลาดโลก ได้แก่ ข้าว, ไก่แปรรูป, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, กุ้งแช่แข็งและแปรรูป และสิ่งปรุงรสอาหาร
“อุตสาหกรรมอาหารในตลาดโลกกำลังมีการแข่งขันสูงขึ้น หากประเทศไทยต้องการแสดงศักยภาพและคงความเป็นผู้นำตลาดโลก ต้องไม่หยุดพัฒนาและต้องมุ่งสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้มีความล้ำหน้าเสมอ ขณะที่บริษัทข้ามชาติของเราประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการระดับโลก แต่การส่งออกอาหารของเรา 45% ยังคงเป็นการส่งออกวัตถุดิบที่ไม่ผ่านกรรมวิธี เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มคุณค่าให้การส่งออกอาหารผ่านการใช้นวัตกรรมต่างๆ มากขึ้น”
ดร.สมคิดกล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงาน THAIFEX - World of Food Asia 2016 ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างช่องทางและโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทยได้พัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายตลาดส่งออกเพื่อสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมอาหารไทยเป็น “ครัวไทยสู่โลก” ได้ตามเป้าหมาย
ด้าน นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมศักยภาพของไทยที่มีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ มากกว่า 200 ประเทศ ด้วยพื้นฐานประเทศเกษตรกรรมทำให้ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรยังมีมาก สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร ถือเป็นรายได้ของครัวเรือนเกษตรกรและชุมชนในชนบทไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจึงสามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรได้อีกมาก
สำหรับสินค้าอาหารของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกในตลาดโลกคือ ข้าว, ไก่แปรรูป, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, กุ้งแช่แข็งและแปรรูป และสิ่งปรุงรสอาหาร คิดเป็นมูลค่าสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปเฉลี่ยมากกว่าปีละ 8 แสนล้านบาท ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งความมั่นคงด้านอาหารของประเทศแล้ว ยังทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตอาหารในภูมิภาคอาเซียนและขยายช่องทางการลงทุนไปตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้เกิดแรงขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยขยายตัวได้อีกในอนาคต
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมด้วยหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ ประเทศเยอรมนี จัดงาน THAIFEX - World of Food Asia 2016 เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการด้านอาหารของประเทศไทยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าอาหารและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร เทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารในเอเชีย
การจัดงาน THAIFEX-World of Food Asia 2016 ได้รับการตอบรับจากบริษัทชั้นนำในวงการอุตสาหกรรมอาหารเข้าร่วมงานจากบริษัทกว่า 1.8 พันแห่งใน 38 ประเทศ คิดเป็นจำนวนกว่า 4.6 พันคูหา ทั้งยังมีประเทศเยอรมนีเข้าร่วมในฐานะ Partner Country โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.5 แสนรายจากประเทศต่างๆ ทั้งจากกลุ่มประเทศในเอเชีย สหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อสินค้าในวันเจรจาธุรกิจและมูลค่าการจำหน่ายปลีกจะไม่ลดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ในส่วนของพื้นที่จัดแสดงสินค้าอาหารงานในปีนี้ได้มีการขยายพื้นที่การจัดแสดงงานจากเดิม 7 หมื่นตารางเมตรเป็นกว่า 8 หมื่นตารางเมตร โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็นกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น โซนอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าสมุนไพรที่รับประทานได้และอาหารฮาลาล, โซนบริการจัดเลี้ยงและธุรกิจบริการด้านอาหาร, โซนเทคโนโลยีอาหาร, โซนค้าปลีกและแฟรนไชส์ นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยการจัดแสดงกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ World of Seafood, World of Coffee & Tea และ World of Food Service เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย
“อุตสาหกรรมอาหารของไทยในปัจจุบันมีความพร้อมเต็มที่ที่จะสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยศักยภาพด้านสินค้าอาหารหลากหลายประเภทที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไทยยังมีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนภาครัฐเองได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสโดยการสร้างช่องทางในการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าปัจจัยหลักเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยได้เติบโตในภูมิภาคเอเชีย และในตลาดโลกได้อย่างมีศักยภาพตามนโยบายรัฐบาลครัวไทยสู่โลกได้อย่างแน่นอน” นางมาลีกล่าวสรุป
อนึ่ง งาน THAIFEX-World of Food Asia 2016 กำหนดให้มีวันเจรจาธุรกิจในวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2559 เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2559 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 และอาคาร Impact Exhibition Center Hall 1-4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.ditp.go.th www.thaitradefair.com และ www.worldoffoodasia.com หรือ สายด่วนการค้าระหว่างประเทศ 1169