ส.อ.ท.ชี้สัญญาณ ศก.ฟื้นยอดขายปูนซีเมนต์-รถยนต์ในประเทศเริ่มโต

ส.อ.ท.เผยทิศทางเศรษฐกิจไทยเริ่มกระเตื้องจากตัวชี้วัดยอดใช้ปูนซีเมนต์โตต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ เม.ย.เพิ่มขึ้น 11% นับเป็นการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นครั้งแรกของปีนี้หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เม.ย.กระเตื้องโดยปรับขึ้น 1.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นเดือนแรกเช่นกัน จับตารถพีพีวียอดขายพุ่งกระฉูดทั้งในประเทศ และส่งออก

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มปูนซีเมนต์ ส.อ.ท.ได้จัดทำรายงานความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศปี 2559 พบว่านับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 58 ยอดการใช้ได้เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเดือน มี.ค. 59 มีการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศอยู่ที่ 3.38 ล้านตันเทียบกับ มี.ค. 58 มีการใช้อยู่ระดับ 3.25 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.9% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของภาคการลงทุนด้านการก่อสร้างไทยที่เริ่มมีทิศทางการขยายตัว

“ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ มี.ค. 59 สูงขึ้นต่อเนื่อง และเชื่อว่า เม.ย.ตัวเลขน่าจะออกมาเติบโตอีก ถือเป็นดัชนีตัวหนึ่งที่สำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจเมื่อความต้องการใช้เพิ่มถือว่ามีสัญญาณที่จะเป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ และชี้ให้เห็นถึงการลงทุนก่อสร้างทั้งรัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้นด้วย” นายเจนกล่าว

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จำนวนรถยนต์นั่งที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2559 มีทั้งสิ้น 138,237 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเป็นเดือนแรกของปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2558 ถึง 11.5% เนื่องจากผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ของยอดผลิตทั้งหมด โดยเป็นการผลิตรถทุกประเภทเพิ่มขึ้น ทั้งพีพีวี ดับเบิลแค็บ ปิกอัพ และรถยนต์นั่ง ทำให้เดือนเมษายนผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 31.63% แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2559 จำนวน 28.3% เนื่องจากเดือนเมษายนมีวันทำงานน้อย ทั้งนี้ส่งผลให้รถยนต์ที่ผลิตได้ใน 4 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2559) มีจำนวนทั้งสิ้น 645,111 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.52%

ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกเดือน เม.ย. 59 ผลิตได้ 80,663 คัน เท่ากับ 58.35% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้ว 0.54% ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีนี้ที่การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น จากการผลิตรถพีพีวี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 87.22% ส่วนเดือนมกราคม-เมษายน 2559 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 395,291 คัน เท่ากับ 61.27% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2558 ระยะเวลาเดียวกัน 4.8% ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เม.ย. 59 อยู่ที่ 57,574 คัน คิดเป็น 41.65% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก เม.ย. 58 จำนวน 31.63% และเดือนมกราคม-เมษายน 2559 ผลิตได้ 249,820 คัน เท่ากับ 38.73% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.1%

ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเมษายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 54,986 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 1.7% ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีนี้ที่ยอดขายในประเทศมากกว่าเดือนเมษายนปีที่แล้ว เนื่องจากจำหน่ายรถพีพีวีและรถกระบะเพิ่มขึ้น 92% และ 13% ตามลำดับ จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2559 จำนวน 24.3% เนื่องจากจำนวนวันทำงานน้อยกว่า

“ยอดขาย เม.ย.ในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแต่สัญญาณถือว่าเป็นบวกเนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าทุนมากขึ้น ชี้ว่าเศรษฐกิจน่าจะเริ่มดีแต่คงต้องรอดูสถานการณ์อีก 2 เดือนหากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเราคงอาจจะต้องปรับเป้าหมายยอดขายใหม่” นายสุรพงษ์กล่าว

ขณะที่การส่งออกเมษายน 2559 อยู่ที่ 80,491 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2558 จำนวน 2% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 43,084.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2558 จำนวน 10.18% การที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นทั้งที่จำนวนหน่วยลดลงเนื่องจากส่งออกรถอีโคคาร์ลดลง ส่งออกรถพีพีวีเพิ่มขึ้นถึง 126% โดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และเอเชีย ส่งผลให้มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรถพีพีวีมีราคาสูงกว่ารถอีโคคาร์