ประมูลข้าวคึกคัก เอกชน 48 ราย ยื่นซื้อข้าวในสต๊อก 1.17 ล้านตัน มูลค่าเฉียดหมื่นล้านบาท “พาณิชย์” เผยได้ราคาดี เมื่อเทียบกับราคาตลาด เตรียมสรุปผลก่อนชง นบข.อนุมัติ เผยหากขายได้ทั้งหมดจะทำให้ระบายข้าวได้รวม 6.5 ล้านตัน มูลค่า 6.76 หมื่นล้านบาท แจ้งข่าวดีจีนพร้อมนำเข้าข้าวจีทูจี 1 ล้านตันแรก เริ่มเดือน มิ.ย.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1.19 ล้านตัน มีเอกชนยื่นซองคุณสมบัติจำนวน 51 ราย ซึ่งผ่านคุณสมบัติทั้งหมด แต่ได้มายื่นซองเสนอราคาเพียง 48 ราย โดยเสนอซื้อข้าวใน 118 คลัง คิดเป็นปริมาณข้าวทั้งหมด 1.17 ล้านตัน มูลค่าเฉียด 1 หมื่นล้านบาท มีเพียง 2 คลัง ที่ไม่มีการเสนอซื้อ คิดเป็นปริมาณ 1.67 หมื่นตันเท่านั้น ส่วนราคาที่เอกชนเสนอมา ถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ เพราะข้าวข้าวสต๊อกรัฐบาลเป็นข้าวเก่า ราคาจึงต่ำกว่าตลาด
ทั้งนี้ มีการเสนอซื้อปลายข้าวเอวันเลิศเฉลี่ยตันละ 7,879 บาท โดยเป็นชนิดข้าวที่นำออกมาเปิดประมูลในรอบนี้มากสุดถึง 7 แสนตัน ส่วนข้าวขาว 5% มีการเสนอซื้อราคาเฉลี่ยตันละ 1.12 หมื่นบาท และข้าวขาว 10% เฉลี่ยตันละ 1.05 หมื่นบาท ซึ่งกรมฯ พอใจกับการเสนอราคาซื้อข้าว เพราะราคาข้าวขาว 5% ในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 1.4 หมื่นบาท ข้าวขาว 10% ตันละ 1.39 หมื่นบาท และปลายข้าวเอวันเลิศราคาตลาดตันละ 1.1 หมื่นบาท
นางดวงพรกล่าวว่า คณะทำงานระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลจะมีการประชุมในวันที่ 23 พ.ค. เพื่อหารือถึงราคาที่ภาคเอกชนเสนอมาก่อนสรุปผลการประมูลเพื่อเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติต่อไป หากขายข้าวได้ในจำนวนทั้งหมด ก็จะทำให้ข้าวสต๊อกรัฐบาลเหลืออีกประมาณ 10 ล้านตัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 11.4 ล้านตัน โดยการประมูลรอบต่อไปคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือกกองข้าวเพื่อนำมาประมูลในรอบต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ ได้เปิดประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลไปแล้วรวม 14 ครั้ง (ไม่รวมการประมูลวันที่ 19 พ.ค.) พบว่าสามารถระบายข้าวได้แล้ว 5.4 ล้านตัน มูลค่า 5.76 หมื่นล้านบาท หากการประมูลในวันที่ 19 พ.ค. มีการอนุมัติขายทั้งหมด จะทำให้รัฐสามารถระบายข้าวรวมทั้งหมด 6.5 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 6.76 หมื่นล้านบาท
นางดวงพรกล่าวว่า กรณีที่ราคาข้าวเหนียวมีราคาสูงกว่าราคาข้าวหอมมะลิตันละ 1,000-2,000 บาท เบื้องต้นไม่น่าจะเกิดความผิดปกติในเรื่องราคา เพราะเท่าที่ตรวจสอบ พบว่าผลผลิตข้าวเหนียวในปีนี้ลดลง จากการที่เกษตรกรหันไปปลูกข้าวหอมมะลิมากขึ้น ในขณะที่ปีนี้มีความต้องการข้าวเหนียวเพิ่มมากขึ้น จากผลกระทบของภัยแล้ง จึงทำให้มีการส่งออกข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ไม่ได้เป็นการผิดปกติอะไร
สำหรับความคืบหน้าการเจรจาขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับคอฟโก้ ผู้นำเข้าข้าวของรัฐบาลจีนตามสัญญาซื้อขาย (เอ็มโอยู) ที่ได้มีการลงนามใน 1 ล้านตันแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการรับมอบข้าวใน 1 ล้านตันแรกกับทางคอฟโก้แล้ว ซึ่งทางคอฟโก้ยืนยันว่าจะมีการเริ่มนำเข้าข้าวใน 1 แสนตันแรกได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนราคาที่จะเสนอขายจะมีการตกลงรายละเอียดกันต่อไป
ส่วนข้าวล้านตันที่ 2 ซึ่งนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้เดินทางไปจีนเพื่อเจรจา ในระหว่างการประชุมร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขอให้จีนเปลี่ยนจากการนำเข้าข้าวเก่าในสต๊อกรัฐบาลมาเป็นข้าวใหม่ เพื่อรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของไทย หากจีนตกลงคาดว่าจะขอให้มีการลงนามเอ็มโอยูล้านตันที่ 2 ในช่วงเดือน มิ.ย. ที่จะมีการประชุมร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ในไทยครั้งต่อไป