“พาณิชย์” รอคำตอบกฤษฎีกา ใครเป็นผู้มีอำนาจทำหนังสือเรียกค่าเสียหาย ยันรู้ปุ๊บ ลุยปั๊บ

“พาณิชย์” เผยไม่ช้า เรียกค่าเสียหายจีทูจี 2 หมื่นล้าน รอกฤษฎีกาตอบ ใครต้องทำหนังสือแจ้งและแจ้งอย่างไร ยันได้คำตอบปุ๊บ ลุยทันที

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามทวงค่าเสียหายจากการขายข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 4 สัญญา ปริมาณข้าว 6.2 ล้านตัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 หมื่นล้านบาท กับนักการเมืองและข้าราชการรวม 6 คน ว่า กรมฯ อยู่ระหว่างรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นผู้ดำเนินการส่งหนังสือเรียกค่าเสียหายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าควรเป็นกระทรวงพาณิชย์หรือหน่วยอื่นๆ หรือจะต้องแยกการดำเนินการระหว่างข้าราชการเมืองกับข้าราชการประจำ หรือจะดำเนินการไปพร้อมกัน และประเด็นการนับอายุความว่าควรเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้ 2 ปี

“เชื่อว่ากฤษฎีกาจะให้คำตอบเร็ว และเมื่อได้รับความชัดเจน กระทรวงพาณิชย์ก็จะเร่งดำเนินการในทันที โดยไม่หนักใจในการทำหน้าที่เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และมีกระบวนการ ขั้นตอนทางกฎหมายในการดำเนินงาน เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายมีทั้งอดีตรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง การทำงานจึงต้องรอบคอบ” นางดวงพรกล่าว

ส่วนวิธีการคิดค่าเสียหาย คณะทำงานกระทรวงการคลังเป็นผู้จัดทำ ซึ่งในหนังสือที่ส่งมายังกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุวิธีการคิดค่าเสียหายและค่าเสียหายที่แต่ละคนต้องจ่ายอย่างชัดเจน มีการเปรียบเทียบราคา มูลค่า เป็นที่เรียบร้อย

รายงานข่าวแจ้งว่า นักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะถูกบังคับทางปกครองชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ