“อภิรดี” ร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเยือนรัสเซีย ตั้งเป้ายกระดับการค้าสองฝ่ายเพิ่ม 5 เท่าตัวใน 5 ปี พร้อมถกเจรจาเปิดเสรีกับกลุ่มยูเรเซีย มั่นใจขยายการค้าได้เพิ่มขึ้นแน่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค. 2559 จะร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซียสมัยพิเศษ ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีประเด็นที่จะหารือโดยจะตั้งเป้าหมายการค้าสองฝ่ายเพิ่มขึ้น 5 เท่าใน 5 ปี การเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) และการลงนามจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ เพื่อขยายและยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ในการเดินทางไปครั้งนี้มีภาคเอกชนของไทยจำนวน 24 บริษัทจากกลุ่มสินค้าอาหาร ยางพารา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสถาบันการเงิน เดินทางไปด้วย ซึ่งจะมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับนักธุรกิจของรัสเซีย เพื่อสร้างความร่วมมือในการขยายการค้าระหว่างกัน
“การเดินทางไปครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดในกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งมีทั้งหมด 5 ประเทศ คือ รัสเซีย คาซัคสถาน เบรารุส อาเมเนีย และคีร์กีซสถาน ซึ่งปัจจุบันมีนโยบายเปิดตลาดโดยเฉพาะกับเอเซียมากขึ้น” นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดีกล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ที่เมืองโซชิ ของนายกรัฐมนตรี จะมีการรับรองเอกสาร 3 ฉบับ ได้แก่ 1. ปฏิญญาโซชิระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย 2. ร่างแผนปฏิบัติการอย่างครอบคลุมเพื่อส่งเสริมความร่มมือระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย ปี 2559-2563 และ 3. รายงานข้อเสนอแนะของกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์หลายมิติในอนาคตของอาเซียน-รัสเซีย ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าไทยมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมการดำเนินงานในกรอบความร่วมมือต่างๆ ระหว่างอาเซียนและรัสเซีย
นอกจากนี้จะมีการจัดการประชุมหารือระหว่างนักธุรกิจระดับสูงอาเซียนและรัสเซียเป็นครั้งแรก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน
สำหรับรัสเซีย เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของไทยในภูมิภาคยูเรเซีย มีประชากรกว่า 142 ล้านคน มีจุดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติทางพลังงานที่สำคัญของโลก ทั้งถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง ในปี 2558 มีมูลค่าการค้าไทย-รัสเซียรวม 2,355 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70,650 ล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ และผลไม้แปรรูป เป็นต้น สินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ย เหล็กและผลิตภัณฑ์ และสินแร่โลหะ เป็นต้น