สสว.นำ SMEs ไทยบุกตลาดดูไบ เผยประสบความสำเร็จเกินคาด สินค้าไทยได้รับการตอบรับดี ชี้ผลไม้ไทยมาแรง มะพร้าว ผลไม้อบแห้ง มียอดสั่งซื้อแล้ว ขณะที่เครื่องสำอางไทยเป็นที่ต้องการของตลาดไม่น้อย คาดจะมีการเจรจาและยอดสั่งซื้อในอนาคต
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังกลับจากการนำคณะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกว่า 40 รายไปเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางว่า การไปเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาการค้าและงานแสดงสินค้าและบริการ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน ระหว่างวันที่ 6-15 พฤษภาคม 2559 นั้นประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะสินค้าไทยได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2559 ในงานเจรจาการค้าที่ดูไบ มีผู้ซื้อ (buyer) ชาวดูไบ รวมทั้งประเทศข้างเคียง เช่น ซาอุดีอาระเบีย และคูเวตตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย เกิดการซื้อขายทันที ผู้ซื้อชาวดูไบซื้อมะพร้าวจากไทย 10 ตู้คอนเทนเนอร์พร้อมทำสัญญาต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 1 ปี
ทั้งนี้ ผลไม้แปรรูปอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น มะม่วงอบแห้ง ทุเรียนอบแห้ง กล้วยแปรรูป ขณะที่สินค้าประเภทเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องหนังและจิวเวลรี ยังเป็นที่ต้องการของตลาดนี้ ส่วนสินค้าพิเศษเฉพาะกลุ่ม เช่น กล้วยไม้สด ถังแก๊ส และเคมีภัณฑ์ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าใหม่สำหรับตลาดดูไบ สสว.ก็จะส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสของ SMEs ไทยในอนาคต ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ สสว.ได้นำผู้ประกอบการค้าข้าวชนิดต่างๆ จากประเทศไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวหัก มาร่วมการเจรจาการค้าด้วย ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คาดว่าจะมีการเจรจาและสั่งซื้อในอนาคต
นอกจากนี้ สินค้าและบริการด้านการศึกษาเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสในดูไบ เพราะประชากรที่อยู่ในวัยเรียนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แม้จะมีโรงเรียนจำนวนมากแต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยล่าสุดธุรกิจการศึกษา Smart Brain ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อเปิดสาขาในดูไบ จะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่จากประเทศไทยไปฝึกสอนเพื่อเตรียมเปิดสาขาอย่างเป็นทางการ
ส่วนการประชุมร่วมกับ Mr. Ahmad Ibrahim ผู้บริหารจาก Dubai SME ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลและส่งเสริม SMEs ในดูไบนั้น สองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือที่จะเป็นตัวกลางให้แก่ผู้ประกอบการได้ทำการค้าขายระหว่างกัน
ผู้อำนวยการ สสว.ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดดูไบเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง เพราะประชากรกำลังขยายตัว ปัจจุบันมีคนประมาณ 3 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นคนอายุน้อยและที่อยู่ในวัยทำงานจำนวนมาก แต่มีประชากรแฝงอีกถึง 8 ล้านคนที่มาใช้แรงงานและเป็นนักธุรกิจในดูไบ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจก่อสร้าง ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และห้างสรรพสินค้าประเภท Mega Mall สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ของตกแต่งในบ้าน สำหรับผลจากการเจรจาการค้าครั้งนี้ นอกจากข้อตกลงธุรกิจข้างต้นแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยยังได้เรียนรู้การตั้งราคาขายว่าปัจจุบันการกำหนดราคานั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ซื้อเป็นสำคัญ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *