“พาณิชย์”เผยภัยแล้งทำผลผลิตลิ้นจี่ลดฮวบ และคุณภาพด้อยลง ผิวไหม้ แต่รสชาติยังดีอยู่ แถมราคาพุ่ง หลังมีความต้องการทั้งบริโภคในประเทศและส่งออกไปจีน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตลิ้นจี่ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน โดยพบว่าปีนี้ผลผลิตมีปริมาณลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 70% และคุณภาพก็ด้อยกว่า หลังจากประสบปัญหาภัยแล้ง อากาศร้อน จนทำให้ผิวลิ้นจี่ไหม้ และผิวไม่สวย ส่วนรสชาติยังดีอยู่ ขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน เพราะมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ลิ้นจี่ที่เกษตรกรนำมาจำหน่าย ณ จุดจำหน่ายจังหวัดพะเยา มาจาก จ.น่าน ร้อยละ 60 พะเยา ร้อยละ 30 และเชียงราย ร้อยละ 10 โดยราคา ณ จุดรับซื้อ ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยจังหวัดเชียงใหม่ กิโลกรัม (กก.) ละ 50 บาท และ 40 บาทตามลำดับ และราคาจำหน่ายปลีกลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยคละเกรด กก.ละ 50-60 บาท ลิ้นจี่คละเกรด ในราคา กก.ละ 30-35 บาท ปริมาณการรับซื้อประมาณ 4.5 ตันต่อวัน โดยราคาซื้อขายลิ้นจี่คละปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา กก.ละกว่า 10 บาท โดยปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกก.
สำหรับลิ้นจี่ที่ออกมาขณะนี้ เป็นผลผลิตในพื้นที่ อ.แม่อาย , ฝาง และไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และ อ. แม่ใจ จังหวัดพะเยา และผลผลิตจากพื้นที่อื่นๆ กำลังทยอยออกมา โดยคาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค.นี้
นางอภิรดีกล่าวว่า ผลผลิตลิ้นจี่ที่ไม่ได้คุณภาพ ส่วนใหญ่ได้มีการนำวางขายภายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคลิ้นจี่ที่ปีนี้มีผลผลิตออกมาน้อย ส่วนลิ้นจี่ที่มีคุณภาพดี ทราบว่า ได้มีการเข้ามาแย่งซื้อเพื่อส่งออกไปยังจีน เพราะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มราคามีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนผลผลิตลิ้นจี่ห่อ ซึ่งเป็นลิ้นจี่ที่มีคุณภาพดี ทำให้มีความเพิ่มสูงขึ้นมาก เพราะผลผลิตมีปริมาณน้อย ซึ่งถือเป็นปีทองของเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ ที่จะขายได้ราคาดีขึ้น ส่วนผู้บริโภค หากมีความสนใจที่จะบริโภคลิ้นจี่คุณภาพดี ก็ต้องรีบหามาบริโภค เพราะจะมีผลผลิตแค่ช่วงสั้นๆ นี้เท่านั้น เพื่อสนับสนุนเกษตรกร และยังเป็นการรณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทยที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางวิตามินสูง
นางอภิรดีกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกผลไม้เน้นด้านคุณภาพแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังส่งเสริมให้มีการแปรรูปผลไม้เพื่อการส่งออกไปต่างประเทศด้วย เนื่องจากยังมีความต้องการบริโภคสูงโดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย และตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ในปลายเดือนพ.ค.2559 นี้ จังหวัดพะเยา จะจัดเทศกาลลิ้นจี่ เพื่อช่วยเกษตรกรให้กระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคโดยตรงอีกช่องทางหนึ่ง จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางไปเลือกซื้อเลือกหาลิ้นจี่มาบริโภค