ผู้จัดการรายวัน 360 - “อิชิตัน” ประกาศผลงานประจำไตรมาส 1/59 รายได้ 1,691.9 ล้านบาท กำไร 249.8 ล้านบาท ยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาด 41% “ตัน ภาสกรนที” ประกาศเดินเครื่องเต็มที่ พร้อมปรับกลยุทธ์สู้ศึกเครื่องดื่มในตลาดใหม่ หวังขยายฐานลูกค้า มองนโยบายรัฐขึ้นภาษีเครื่องดื่มน้ำตาลสูงไม่เป็นปัญหาธุรกิจ
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/59 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,691.9 ล้านบาท เติบโต 45.6% เทียบกับงวดก่อนหน้าจากไตรมาส 4/58 แต่ลดลง 8.5% จากไตรมาส 1/58 ในขณะที่กำไรสุทธิปิดที่ 249.8 ล้านบาท เติบโต 365.4% จากไตรมาส 4/58 แต่ลดลง 21.1% จากไตรมาส 1/58 โดยเมื่อเทียบสัดส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขายคิดเป็น 14.76% ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในปีนี้มีการแข่งขันสูง ทำให้ “อิชิตัน” ไม่จำกัดธุรกิจอยู่ที่กลุ่มชาพร้อมดื่มเท่านั้น ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไปจะได้เห็นสินค้าใหม่ทั้งในกลุ่มเดิมและกลุ่มสินค้าใหม่ เช่น ไบเล่ เยลลี่ หรือไบเล่น้ำผลไม้ 100% เป็นต้น เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมของตลาดใหม่ๆ ที่ “อิชิตัน” จะพุ่งเป้าเข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาดมูลค่ารวมกันถึง 4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังจะมีกิจกรรมการตลาดที่ออกมากระตุ้น โดยเน้นแคมเปญออนไลน์ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น อิชิตัน น้ำตาล 0% เพื่อขยายฐานลูกค้าและเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 18% หรือเท่ากับ 7.5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 6.34 พันล้านบาท
สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญและมองว่ายังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะ “อิชิตัน อินโดนีเซีย” ที่จะเริ่มขยายตลาดไปยังตลาด GT (General Trade) และมีการออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 ชนิดสู่ตลาดประเภทต่างๆ เช่น ชาเขียว-ชาสมุนไพร, กาแฟ และชานม พร้อมเตรียมทำกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ในแบรนด์ จึงคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้นและมั่นใจจะเป็นอีกส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้ “อิชิตัน กรุ๊ป” ในอนาคต
นายตันกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณีที่ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ “อิชิตัน” ในฐานะผู้ประกอบการน้อมรับและพร้อมจะทำตามหากเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ควรดำเนินการให้เป็นธรรมคือ เก็บภาษีทุกเซกเมนต์ให้ครบถ้วน ทั้งรายเล็กและรายใหญ่
“บริษัทฯ มองว่ายังมีทางออกด้วยการปรับปรุงสูตรเฉพาะสินค้าที่เกินเกณฑ์โดยไม่กระทบรสชาติ หรือน้อยที่สุด และการปรับราคาสินค้า โดยพิจารณาเป็นรายผลิตภัณฑ์ว่าควรจะปรับอย่างไรให้เหมาะสม แต่ทั้งนี้หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดของบริษัทปีนี้คือ วางแผนผลักดันสินค้าที่ไม่มีนํ้าตาลเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอยู่แล้ว” นายตัน กล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ จากข้อมูลจากตัวเลขค้าปลีกของ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเดือนมีนาคม 2559 ระบุว่า “อิชิตัน” ยังครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดชาพร้อมดื่ม โดยมีสัดส่วน 41% ในเดือนมกราคม-มีนาคม 2559