“พาณิชย์” จับมือหน่วยงานพันธมิตรบุกจับนอมินีภูเก็ต ได้คนทำผิด 30 ราย ส่งตัวดำเนินคดีพร้อมสอบเสียภาษี

“พาณิชย์” จับมือหน่วยงานพันธมิตรบุกตรวจนอมินีภูเก็ต หลังประชาชนร้องเรียนถึงนายกฯ มีทัวร์ศูนย์เหรียญโผล่ เผยลงพื้นที่ตรวจ 5 บริษัท จับผู้กระทำผิดได้ 30 ราย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที พร้อมประสานกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษี เตรียมลงพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นต่อ เตือนคนไทยร่วมมือเจอทั้งปรับทั้งคุก

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 5 บริษัทที่มีชาวต่างชาติถือหุ้นร่วมกับคนไทย หลังจากได้รับการประสานจากกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวว่ามีผู้ร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับทัวร์ศูนย์เหรียญ และอาจมีการใช้ตัวแทนอำพราง (นอมินี) เพื่อประกอบธุรกิจ ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว จำหน่ายที่นอนยางพารา และอัญมณีในจังหวัดภูเก็ต สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 30 ราย และได้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว

ทั้งนี้ ผลการจับกุมทั้ง 30 ราย แยกเป็น การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ราย ไม่แสดงบัตรมัคคุเทศก์ขณะปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและทำงานในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต 20 ราย คนต่างด้าวทำงานผิดประเภท 2 ราย ไม่พกเอกสารอนุญาตทำงานติดตัวขณะทำงาน 1 ราย การขายสินค้าโดยไม่มีสลากหรือมีสลากแต่ไม่ถูกต้อง 2 ราย รวมถึงผลิตและจำหน่ายยาปลอม 1 ราย

“จากการตรวจสอบของกรมฯ ในเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แต่ได้มีการยึดบัญชีและเอกสารต่างๆ เพื่อตรวจสอบการเสียภาษี และยังได้ประสานไปยังกรมสรรพากร เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบการเสียภาษีของนิติบุคคลดังกล่าวเพื่อขยายผลการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกด้วย” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว

สำหรับหน่วยงานพันธมิตรที่เข้าร่วมจับกุม ได้แก่ เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรมสรรพากร หน่วยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 41 และกองทัพเรือภาค 3 โดยมีการผสานกำลังพลประมาณ 100 นาย จัดชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบ

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า การดำเนินการเชิงรุกในครั้งนี้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถจับกุมหรือเอาผิดตามกฎหมายที่เป็นลักษณะความผิดซึ่งหน้าได้หลายกรณี ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและนักท่องเที่ยว โดยกรมฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการลงพื้นที่ดำเนินการร่วมกันในลักษณะเช่นนี้ในจังหวัดท่องเที่ยวแห่งอื่นต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 1-5 หมื่นบาทจนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน