xs
xsm
sm
md
lg

“ไมเนอร์” ไล่เทกฯ รีเทลเทรดดิ้ง เขย่าพอร์ต-ปรับสู่ไลฟ์สไตล์-ดันยอดหมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(จากซ้ายไปขวา) น.ส.ธีร์ณัฐชา รุ่งนิเวศน์, นายจักร เฉลิมชัย, นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ และนายแอนดี ลิว
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไมเนอร์” งัดกลยุทธ์รุกเทกโอเวอร์ร่วมทุน หวังกรุยทางโตกลุ่มแฟชั่นรีเทลเทรดดิ้ง ปรับสู่ไลฟ์สไตล์ ตามสูตรเดียวกับกลุ่มโรงแรมและอาหาร เร่งเจรจามากกว่า 20 ดีลในทุกสินค้าทั้งอินเตอร์แบรนด์-โลคัลแบรนด์ และโออีเอ็ม ครอบคลุมเฟอร์นิเจอร์, ของเล่น, ชุดชั้นใน, เครื่องครัว พร้อมตัดทิ้งแบรนด์ที่ยอดขายไม่ค่อยดี หวังดันรายได้รวมสู่ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2562 จากปัจจุบัน 3 พันล้านบาท

นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นนำเข้าจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์กลุ่มรีเทลเทรดดิ้ง (แฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าต่างๆ) ในการขยายธุรกิจทุกแนว ทั้งการเทกโอเวอร์กิจการ การลงทุนร่วม ตลอดจนการเป็นคู่ค้า เพื่อสร้างการเติบโตและความหลากหลายให้ธุรกิจ โดยจะขยายไลน์ไปยังกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์มากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นหลัก นอกจากนี้ยังจะขยายช่องทางจำหน่ายสู่ระบบอี-คอมเมิร์ซด้วย

“ปัจจุบันมีการเจรจาอยู่มากกว่า 20 ดีลในทุกกลุ่มสินค้าทั้งจากโลคัลแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ เช่น เฟอร์นิเจอร์, เครื่องครัว, เสื้อผ้า, รองเท้า, ของเล่น, ชุดชั้นใน เป็นต้น รวมไปถึงการศึกษาที่จะทำการผลิตหรือโออีเอ็มและการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองด้วย เพราะที่ผ่านมาเป็นแต่เพียงผู้แทนจำหน่ายและนำเข้าเท่านั้น โดยพิจารณาจากศักยภาพของแบรนด์ของสินค้านั้นและของตลาดด้วย ทั้งยังต้องเป็นแบรนด์ที่ตลาดรู้จักและมีประวัติมานาน อีกทั้งเพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอให้มากจะได้มีอำนาจต่อรองกับเจ้าของพื้นที่ หรือแลนด์ลอร์ดด้วย ซึ่งคาดว่าหากสามารถสรุปได้ประมาณ 5 รายการจากที่เจรจาก็ถือว่าประสบความสำเร็จขั้นแรกแล้ว”

นายเจมส์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายแฟชั่นเสื้อผ้านั้นก็จะหันมาปรับพอร์ตโฟลิโอใหม่ด้วย โดยจะมีการตัดสินค้าบางแบรนด์ทิ้งไปเนื่องจากยอดขายไม่ค่อยดี เช่น เรดเอิร์ธ และปีนี้ก็คาดว่าจะมีการยกเลิกอีกอย่างต่ำ 2 แบรนด์ ส่วนแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อปี 2558 คือ “บานาน่า รีพับลิค” ส่วนในปี 2559 มีแบรนด์ใหม่ 4 แบรนด์ คือ “บรูคส์ บราเธอร์ส” (Brooks Brothers) จากสหรัฐอเมริกา, ชุดชั้นในสตรี “Etam”, ผลิตภัณฑ์กีฬาและกระเป๋าเดินทางจากอิตาลี รวมทั้ง “Hamleys” ร้านของเล่นเด็กที่จะเปิดสาขาแรกที่ “เมกา บางนา” โดยในปี 2559 กลุ่มแฟชั่นจะใช้งบลงทุนรวม 400 กว่าล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วไม่ถึง 100 ล้านบาท

นายจักร เฉลิมชัย รองประธานกลุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่และอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องการสร้างการเติบโตของกลุ่มแฟชั่นให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ 10% เหมือนอีก 2 ธุรกิจในเครือไมเนอร์ คือ โรงแรม และอาหารที่มีการเทกโอเวอร์ตลอดจึงเติบโตเร็วและเติบโตมากกว่า 30% ต่อปี ด้วยการสร้างเซกเมนต์ใหม่ๆ นอกจากเสื้อผ้า แฟชั่น และเครื่องสำอาง

“ปัจจุบันกลุ่มแฟชั่นมีสินค้าเสื้อผ้าเป็นหลักมากกว่า 14 แบรนด์ เช่น ชาร์ลสแอนด์คีธ, เอสปรี, แกป ฯลฯ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุดตามลำดับ โดยในกลุ่มแฟชั่นมีสัดส่วนรายได้กว่า 90% เราจึงต้องการที่จะขยายสินค้าและบริการเป็นกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น พร้อมตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากเสื้อผ้ากับไลฟ์สไตล์เท่ากันอย่างละ 50% เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มภายในช่วง 3-4 ปีจากนี้ โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมกลุ่มแฟชั่นไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2559 ไว้ที่ 3 พันล้านบาท เติบโต 14% จากปี 2558”
แฟล็กชิพสโตร์ “บรูคส์ บราเธอร์ส” แห่งแรกในประเทศไทย
นางสาวธีร์ณัฐชา รุ่งนิเวศน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสแบรนด์ “บรูคส์ บราเธอร์ส” บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2558 จะเปิดสาขาของบรูคส์บราเธอร์ส 5 แห่ง คือ 1. แฟลกชิปสโตร์ที่ “เกษร พลาซ่า” ลงทุน 50 ล้านบาทเปิดบริการแล้ว 2. สาขา “สยามดิสคัฟเวอรี่” ลงทุน 25 ล้านบาท เปิดเดือน ก.ย. 59 3. ชอปอินชอปที่ “ดิ เอ็มโพเรียม” เปิดวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. 59 4. สาขา “สยามพารากอน” เปิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา และ 4. สาขา “เซ็นทรัล ชิดลม” เปิดเดือน ส.ค. 59

แบรนด์นี้เป็นลักษณะกลุ่ม (Affordable Luxury) เน้นกลุ่มผู้ชาย 80% อายุตั้งแต่ 30-45 ปีขึ้นไป ราคา 1.9-4.5 พันบาท เสื้อสูทราคาตั้งแต่ 4-7 หมื่นบาท และอีก 20% จับกลุ่มผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 2.9-8.9 พันบาท ถือเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา ต่างกันเพียง 10-15% ขณะที่ภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 10% โดยตั้งเป้าหมายยอดขายแบรนด์นี้ในปีแรกประมาณ 100 ล้านบาท

ด้าน นายแอนดี ลิว กรรมการผู้จัดการ แบรนด์ “บรูคส์ บราเธอร์ส” เอเชียแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า แบรนด์นี้มีอายุมากกว่า 198 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็สร้างยอดขายได้ดี โดยมีสัดส่วนยอดขายมาจากเอเชีย 20% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 40-42% ภายใน 5 ปี โดยมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในไทย เนื่องจากได้พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดแฟชั่นอย่างดีในไทยอย่างกลุ่มไมเนอร์ฯ



กำลังโหลดความคิดเห็น