“บิ๊กตู่” สั่งการทุกกระทรวงทำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ให้ส่งการบ้านภายในวันที่ 4 พ.ค.นี้ ก่อนนำไปบรรจุไว้ในแผนปฏิรูปประเทศ พร้อมสั่งกระทรวงอื่นๆ ดูงานศูนย์บริการประชาชนพาณิชย์ “ชุติมา” ขออนุมัติเพิ่มกำลังคน รองรับงานที่เพิ่มขึ้น พร้อมขอหน่วยงานอื่นหนุนร่างกฎหมายคุมสินค้าทำลายล้างสูง ที่จะเข้า ครม.เดือนหน้า เผยนายกฯ ชอบใจเมนูกลางวันจากร้านหนูณิชย์ เหตุประหยัดดี
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่านายกฯ ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของแต่ละกระทรวงในระยะ 20 ปี แบ่งเป็นระยะละ 5 ปี โดยระยะแรกเริ่มปี 2560-2564 เพื่อกำหนดทิศทางการทำงาน เป้าหมายในการทำงาน และงานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ เพื่อนำไปบรรจุในแผนปฏิรูปประเทศ และให้ส่งแผนภายในวันที่ 4 พ.ค. 2559 นี้
“นายกฯ ย้ำว่าตอนนี้เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทุกกระทรวงต้องตามโลกให้ทัน โดยสั่งการบ้านให้ทุกกระทรวงไปทำแผน 20 ปีข้างหน้า อยากเห็นกระทรวงตัวเองเป็นอย่างไร ทำให้ทุกกระทรวงต้องปรับโครงสร้างการทำงาน และให้มีส่วนในการผลักดันให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และที่สำคัญ ทุกกระทรวงต้องอธิบาย ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่ากำลังทำอะไร ทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง”
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้ชมการเปิดให้บริการศูนย์บริการประชาชนกระทรวงพาณิชย์ (MOC Service Center) ที่ได้รวมงานบริการต่างๆ ของกระทรวงมาไว้ที่เดียวกัน โดยประชาชนและผู้ประกอบการสามารถมาติดต่อเพียงที่เดียว สามารถขอรับคำปรึกษางานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ ยื่นขอจดทะเบียน และแจ้งเรื่องร้องเรียนได้เลย ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงอื่นๆ ให้ดูเป็นต้นแบบ และนำไปดำเนินการ
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอนายกฯ ขอให้สนับสนุนการเพิ่มอัตรากำลังคน เพราะหลังจากปรับโครงสร้างกระทรวง โดยรวมหน่วยงานในส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานเดียว (One Roof) ทำให้ขาดกำลังคนอยู่ประมาณ 80 คน ซึ่งขอให้ช่วยพิจารณาให้ด้วย โดยจะขอเพิ่มภายในระยะเวลา 3 ปี และยังขอเพิ่มกำลังคนที่จะเข้ามาทำงาน หลังจากที่กฎหมายหลักประกันธุรกิจมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค. 2559 นี้ โดยต้องการ 90 คน เพื่อเข้ามาช่วยขับเคลื่อน เพราะกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้ขอการสนับสนุนจากกระทรวงต่างๆ เพราะต้นเดือนพ.ค. จะเสนอร่างพ.ร.บ.การค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ... ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อควบคุมดูแลสินค้าที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) และจะทำให้มีการกำหนดมาตรการเพื่อดูแลการส่งออกสินค้าที่นำไปใช้ได้สองทาง (DUI) ได้รัดกุมมากขึ้น
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ นายกฯ ยังได้ชมการเลี้ยงอาหารกลางวันที่กระทรวงฯ ได้นำเมนูจากร้านอาหารหนูณิชย์ พาชิม มาเสิร์ฟให้กับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเมนูหลัก คือ ข้าวกะเพราไก่ ไข่ดาว โดยข้าวเป็นข้าวสังข์หยด และข้าวไรซ์เบอร์รี ซึ่งนายกฯ ชอบใจ แต่บอกว่ากะเพรายังต้องปรับปรุง ส่วนไข่ดาว อร่อยดี และยังบอกอีกว่า ไม่เคยเห็นการจัดงานแบบนี้ แต่ก็ถือว่าประหยัดดี
สำหรับอาหารกลางวันที่มาจากร้านหนูณิชย์ คือ ข้าวกะเพราหมู/ไก่/เนื้อ, ไข่ดาว/ไข่ต้ม, แกงจืดเต้าหู้, ผลไม้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ที่หาได้เฉพาะท้องถิ่น เช่น สับปะรดภูแล ส้มโอนครชัยศรี และไอศกรีมจากข้าวไรซ์เบอร์รี เป็นต้น
น.ส.ชุติมากล่าวอีกว่า กระทรวงฯ ยังได้รายงานผลการดูแลค่าครองชีพ ซึ่งสามารถดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ โดยภาวะราคาสินค้าส่วนใหญ่เป็นปกติ แต่มีบางสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นตามฤดูกาล อย่างตอนนี้ มะนาวที่บางพื้นที่สูงถึงลูกละ 10 บาท ซึ่งเป็นระยะสั้นๆ และยังได้แจ้งอีกว่า กระทรวงฯ มีแผนที่จะลดค่าครองชีพต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งการใช้โครงการธงฟ้า การจัดมหกรรมลดราคาร่วมกับผู้ผลิตและห้างสรรพสินค้า
ทางด้านการส่งออกได้แจ้งว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินมาตรการผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการแถลงตัวเลขการส่งออกเดือน มี.ค. 2559 ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีการขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง