จีนผวาไวรัสซิการะบาด ออกประกาศตรวจเข้มสินค้านำเข้าจาก 40 ประเทศ รวมทั้งไทยเป็นเวลา 1 ปี ยันไม่ใช่การกีดกันการค้า ด้านไทยรับมือให้เซอร์เวเยอร์เป็นผู้ออกใบรับรองให้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2559 ศุลกากรกลางจีนได้ออกประกาศการเข้มงวดตรวจสอบสินค้านำเข้าจากประเทศที่มีการระบาดของไวรัสซิกา (Zika Virus) ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานจำนวน 40 ประเทศ และพื้นที่ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวเข้าสู่จีน
ทั้งนี้ ศุลกากรจีนได้กำหนดให้ยานพาหนะขนส่ง และตู้คอนเทนเนอร์ที่มาจากประเทศและพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดให้ผ่านการรับรองการกำจัดยุงอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ไม่มีการรับรอง ทางการจีนจะดำเนินมาตรการกำจัดยุงโดยตรวจยานพาหนะขนส่ง สินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ กระเป๋าสัมภาระ และพัสดุไปรษณีย์ที่มาจากประเทศและพื้นที่ดังกล่าวอย่างเข้มงวดโดยทันที โดยประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2559 ถึงวันที่ 1 มี.ค. 2560
นอกจากนี้ สำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคของจีนที่รับผิดชอบการตรวจโรคระบาด ชี้แจงว่า มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการกีดกันทางการค้า แต่เป็นมาตรการควบคุมโรคระบาด ซึ่งหาก WHO ถอนรายชื่อไทยออกจากการเป็นพื้นที่ระบาดของไวรัสซิกา ทางการจีนจะยกเลิกการใช้มาตรการดังกล่าวกับไทยทันที ดังนั้น ในช่วงที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ สินค้าที่ออกจากประเทศและพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดดังกล่าว ต้องมีใบรับรองการกำจัดยุงโดยใช้สารฉีดพ่นยาที่ WHO กำหนดจากประเทศต้นทางกำกับมากับตู้สินค้าทุกตู้
อย่างไรก็ตาม ใบรับรองดังกล่าวสามารถออกโดยหน่วยงานราชการหรือเอกชนก็ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ ส่วนกรณีที่ตู้สินค้าใดยังไม่มีใบรับรองกำกับมาด้วย ทางการจีนจะพ่นยากำจัดยุงให้ ณ ด่านนำเข้า โดยคิดค่าใช้จ่ายจากผู้นำเข้า และทางการจีนยังสามารถทำการสุ่มตรวจยานพาหนะและตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับการรับรองแล้ว หากตรวจพบยุงในตู้สินค้าอีก ทางการจีนจะฉีดพ่นยากำจัดยุงซ้ำได้
“การเตรียมการของฝ่ายไทยสำหรับเรื่องนี้ กรมวิชาการเกษตรและกรมควบคุมโรค ได้กำหนดให้บริษัทรับจ้างกำจัดศัตรูพืช (เซอร์เวเยอร์) ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ฉีดพ่นยา และออกใบรับรองดังกล่าว”
นางดวงพรกล่าวว่า กรมฯ จะติดตามความคืบหน้าของการบังคับใช้กฎหมาย และการปรับแก้ไขมาตรการรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะเผยแพร่ข้อมูลให้cdjผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงทีต่อไป โดยผู้สนใจสามารถสืบค้นรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.aqsiq.gov.cn