“คมนาคม” สั่งเพิ่มความเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยสนามบินทุกแห่งทั้งของ ทอท.กรมท่าอากาศยานและสนามบินเอกชน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง-กรมทางหลวงชนบท 20,000 คน อำนวยความสะดวกเดินทางสงกรานต์ทั่วประเทศ และระวังเป็นพิเศษจุดตัดรถไฟ ป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนรถโดยสารต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งก่อนออกเดินทาง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประชาชนได้เริ่มเดินทางออกตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.เป็นต้นมา กระทรวงคมนาคมได้เตรียมพร้อมในการรวม 11 วัน โดย 3 วันที่ผ่านมายังไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ซึ่งจะนำปัญหาที่มีมาปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อรองรับการเดินทางในวันที่ 12-13 เม.ย.ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงข่ายคมนาคมนั้นได้จัดเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง 10,000 คน กรมทางหลวงชนบท 10,000 คน คอยให้ความช่วยเหลือตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในความปลอดภัยบริเวณจุดตัดรถไฟอย่างเข้มข้น โดยมีจำนวน 137 จุดที่มีความเสี่ยงเพราะอยู่ระหว่างการจัดทำเครื่องกั้นอัตโนมัติ ดังนั้น กรมทางหลวงชนบทจะจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดละ 4 คน ส่วนทางลักผ่าน ทางการรถไฟฯ ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรงมาช่วยดูแล
ทั้งนี้ ในส่วนรถโดยสารสารสาธารณะต่างๆ ทั้งรถ บขส. รถทัวร์ รถตู้ จะต้องมีความปลอดภัย มีการตรวจแอลกอฮอล์,ยาเสพติด คนขับเข้มงวด, ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคนก่อนออกรถ, พนักงานขับรถต้องแนะนำตัวเองและผู้ช่วย และเส้นทางที่จะวิ่งและจุดแวะพัก คนขับรถจะมีบัตรประจำตัว เพื่อเข้าระบบหากประเภทใบขับขี่กับประเภทรถไม่ตรงกันจะสตาร์ทรถไม่ได้ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี มีการควบคุมความเร็วรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะมีศูนย์ควบคุม GPS เชื่อมโยงกับรถโดยสารทุกคัน สามารถรายงานและสื่อสารถึงรถแต่ละคันได้ตลอดเวลา พร้อมกำชับให้ทุกสนามบินทั้งของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กรมท่าอากาศยาน และสนามบินของเอกชน เพิ่มมาตรการความปลอดภัย สายตรวจในและนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ทอท.และคสช.จะร่วมมือกัน อาจจะเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระมากขึ้นด้วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนผู้โดยสารขอความร่วมมือให้เดินทางไปถึงสนามบินล่วงหน้า เพื่อลดความแออัด ขณะที่ปัญหาแท็กซี่ที่สนามบินดอนเมืองมีไม่เพียงพอ เนื่องจากแท็กซี่ส่วนหนึ่งจะกลับบ้านไปฉลองสงกรานต์ ได้ประสานกับสหกรณ์แท็กซี่ทุกแห่ง และ จส.100 เพื่อให้ข้อมูลและส่งแท็กซี่หมุนเวียนเข้ามาที่สนามบินได้ทัน และให้ ขสมก.จัดรถเสริมสาย A1, A2 จากสนามบินดอนเมืองไปจตุจักร และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ออกทุก 7 นาที
ด้านนายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยถึงจำนวนผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2559 ว่ามีจำนวนกว่า 470,000 คนแล้ว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 59 ที่ผ่านมามีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการ จำนวน 163,533 คน ใกล้เคียงกับประมาณการที่ตั้งไว้ 170,000 คน โดย บขส.สามารถระบายผู้โดยสารกลับได้หมดในเวลา 23.00 น. ส่วนในวันนี้ (11 เม.ย. 59) บขส.ได้จัดเที่ยวรถเสริมจากเที่ยวปกติ 7,079 เที่ยว เพิ่มขึ้น 1,062 เที่ยว รวม 8,141 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 167,075 คน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 เม.ย. 2559 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้สูงสุดประมาณ 200,000 คน และสำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และรถวีไอพีของ บขส. เส้นทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 8-12 เม.ย. 2559 ให้ไปขึ้นรถที่กรมการขนส่งทางบก ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ให้ติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร และขึ้นรถเสริมที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป จนถึงเที่ยวสุดท้ายของการเดินรถ ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยในการเดินทางสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส.ตลอด 24 ชั่วโมง