xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ตั้งเป้ามูลค่าการค้าชายแดนปีนี้ 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ตั้งเป้าการค้าชายแดนปี 59 มูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4% หลังประเมินเศรษฐกิจเพื่อนบ้านยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง สวนทางเศรษฐกิจโลก เอกชนเสนอปรับเงื่อนไขหนุน ทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้านำติดตัว ขยายเวลาเปิดปิดด่าน เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ได้มีมติกำหนดเป้าหมายการค้าชายแดนและผ่านแดนในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.4% จากปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าการค้าชายแดน 1.4 ล้านบาทบาท เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านยังขยายดีต่อเนื่องซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซา

ทั้งนี้ เพื่อให้มูลค่าการค้าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภาคเอกชน จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย , สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้เสนอให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดน โดยขอให้ดำเนินการใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1. การขอขยายมูลค่าสินค้านำติดตัว (Hand Carry) ที่เดินทางเข้าออกตามด่านการค้าชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ตามข้อตกลงอาเซียนที่ได้ทำไว้ตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งกำหนดวงเงินไว้ 200 เหรียญสหรัฐ ให้เพิ่มเป็น 3,000 เหรียญสหรัฐ โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ จะไปศึกษาเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ภายใน 1 เดือน

2. การขอขยายเวลาทำการของด่านการค้าชายแดน ใน 11 ด่าน ประกอบด้วย ด่านกัมพูชา 1 ด่านที่ช่องสะงำ, กับลาว 6 ด่าน เช่น หนองคาย, เชียงของ, มุกดาหาร, ช่องเม็ก, เชียงแสน, กับพม่า 1 ด่าน และมาเลเซียอีก 3 ด่าน โดยการขยายเวลามีทั้งเปิด 24 ชั่วโมง และปิดให้ดึกขึ้นเป็น 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนในบางด่าน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะนำไปหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยการพิจารณาตามความสำคัญจากด่านที่มีมูลค่าการค้าเติบโตเพิ่มมากที่สุด 4 ด่านในปีที่ผ่านมา เช่น ที่มุกดาหาร มูลค่าโตเพิ่ม 137% นครพนม โต 25.4% เชียงของ จ.เชียงราย โต 24.5% และด่านเชียงแสนที่เชียงรายโต 15.5% และพิจารณาจากด่านที่มูลค่าการค้าชายแดนเกิน 1 แสนล้านบาท และความแออัดที่ด่าน เช่น ที่ด่านสะเดา และปาดังเบซาร์ จ.สงขลา, ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เพื่อจะได้ลดต้นทุนค่าขนส่ง

3. การอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนด้านพม่า และกัมพูชา เพื่อเพิ่มจำนวนรถขนส่ง และ เที่ยวการขนส่งสินค้าระหว่างกันให้มากขึ้น โดยที่ประชุมได้มีมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม รับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกระทรวงคมนาคมได้แจ้งถึงกำหนดการประชุมรัฐมนตรีคมนาคมในที่ประชุม Great Mekong Sub Region ที่จะจัดขึ้นเดือน พ.ค.นี้ จะนำประเด็นปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าเข้าไปร่วมพิจารณาด้วย

นายอดุลย์กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนให้โตต่อเนื่อง ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์มีโครงการเพื่อส่งเสริมและขยายมูลค่าการค้าชายแดน โดยจะจัดคณะผู้แทนการค้าการลงทุนไทยเดินทางไปเจรจาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า ซึ่งจะเน้นการจัดไปในเมืองรองเช่น เสียมราฐ, พระตะบอง, สุวรรณเขต, มัณฑะเลย์, ตองยี, มะละแหม่ง และไปยังชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียในรัฐมณีปุระ และการจัดโครงการจัดมหกรรมการค้าชายแดนที่จังหวัดนครพนมระหว่างวันที่ 12-14 พ.ค. 2559 ภายใต้แนวคิดขยายการค้าชายแดนเชื่อมโยงเพื่อนบ้านสู่จีนตอนใต้ จากนั้นจะขยายโครงการไปยังจังหวัดหนองคาย จังหวัดเชียงราย จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ตามลำดับ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศ CLMV ภายใต้โครงการ YEN-D ที่กำลังจะเปิดตัวในซีซัน 2 ในวันที่ 8 เม.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น