ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไทยทาวน์” ทุนไทยแบ็กพม่า เขย่าวงการค้าปลีก ชูจุดแข็งรู้ลึกตลาดพม่า ปลุกแบรนด์ไทยตีพม่าแบบติดจรวด หวังปีแรกโกยรายได้ 500 ล้านบาท
นายเอกรินทร์ ชยุติ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชตะนะ อ่าว จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกและค้าส่ง “THAITOWN” ประเทศพม่า เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนได้ร่วมทุนก่อตั้งไชตะนะอ่าวขึ้นมาซึ่งเป็นการจดทะเบียนบริษัทในพม่าด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ภายใต้พาร์ตเนอร์นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของพม่าที่ร่วมเป็นที่ปรึกษา ทำให้สถานะของบริษัทเป็นสัญชาติพม่า แต่ดำเนินธุรกิจโดยคนไทย ในการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าของไทยมายังพม่า
เบื้องต้นบริษัทฯ พร้อมใช้งบกว่า 50 ล้านบาท ในการเปิดร้าน THAITOWN (ไทยทาวน์) ขึ้นมา ณ ถนน THUNA ในย่างกุ้ง ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจ ภายในร้านมีทั้งหมด 4 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 สำหรับกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ชั้น 2 เป็นเครื่องสำอาง ชั้น 3 เป็นคลินิกความงาม และชั้น 4 วางไว้สำหรับธุรกิจขายตรง ขณะนี้แล้วเสร็จเพียงชั้น 1-2 เท่านั้น ส่วนชั้น 3-4 กำลังอยู่ในช่วยเจรจากับคู่ค้าอยู่ว่าจะเป็นรายใด
สำหรับร้านไทยทาวน์นี้จะใช้เป็นหน้าร้านนำเสนอสินค้าแบรนด์ไทยที่เข้ามาทำตลาดในพม่า และเป็นศูนย์กลางสำหรับการเจรจาพูดคุยระหว่างไทยทาวน์กับดิสทริบิวเตอร์ในเมียนมาที่สนใจจะนำสินค้าเหล่านี้ไปจำหน่ายต่อ ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการเมื่อ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา บวกกับมีงานแสดงสินค้าในช่วงนี้ ทำให้มีสินค้าแบรนด์ไทยสนใจให้ทางไทยทาวน์เป็นผู้ทำตลาดในเมียนมาให้เป็นร้อยราย
จากปัจจุบันที่เริ่มทำตลาดให้แล้วหลายสิบราย เช่น บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด เป็นต้น โดยตามแผนใน 5-10 ปี ต้องการที่จะเปิดร้านไทยทาวน์ทั้งเต็มรูปแบบหรือเฉพาะกลุ่มสินค้าให้ครบทั้ง 10 หัวเมืองหลักของพม่า ซึ่งสาขาต่อไปที่จะเปิดในเร็วๆ นี้ ได้แก่ มะลิด ยะไข่ ทวาย และมัณฑะเลย์ เป็นต้น
“การเข้ามาทำธุรกิจในพม่า เป็นเรื่องที่ยากแตกต่างจากหลายประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากกฏหมายที่ห้ามธุรกิจต่างชาติเข้ามาเช่าหรือซื้อที่ดินในพม่า ขณะที่ ไชตะนะ อ่าว มีความสัมพันธ์อันดีและมีพันธมิตรเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในพม่าที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจราบรื่นขึ้น ถือเป็นจุดแข็งของไทยทาวน์ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำตลาดและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในพม่าได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการขอใบอนุญาตทำการค้าในพม่า การขยายสาขา รวมถึงช่องทางจำหน่ายทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่งที่ทั่วถึง รวมถึงการทำการตลาดโฆษณาประชาสัมพันธ์”
นายเอกรินทร์กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานของไทยทาวน์จะเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าจากไทยสู่พม่าโดยมีการทำการตลาดแบบครบวงจร เนื่องจากมีคอนเนกชันที่ดีกับทางพันธมิตรท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้าในพม่า ร้านสะดวกซื้อ นิตยสารสิ่งพิมพ์และสื่อต่างๆ รวมถึงการขอเช่าพื้นที่เปิดร้านขยายสาขา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีระบบลอจิสติกส์และคลังสินค้ารองรับไว้อย่างเพียงพอที่จะช่วยให้การเข้ามาทำตลาดในพม่าตรงจุดและขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจว่าจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจให้ทางไทยทาวน์ดูแลทำการตลาดและกระจายสินค้าให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากแผนงานที่กล่าวมามั่นใจว่าในปีแรกจะมีรายได้ร่วม 500 ล้านบาท