ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มธุรกิจทีเอสแฟมมิลี่กรุ๊ป ตระกูลมูลทรัพย์ ลงทุน 1,000 ล้านบาท แตกพอร์ตธุรกิจ เปิดโรงแรมอัล มีรอซ (AL MEROZ) ฮาลาลโฮเต็ลระดับ 4 ดาวอย่างสมบูรณ์แบบแห่งแรกของไทย ในทำเลดีย่านรามคำแหง พร้อมมาตรฐานเดอะ ลีดดิ้ง ฮาลาลโฮเต็ลจากองค์กร Gulf Halal ในดูไบ เจาะตลาดมุสลิมระดับไฮเอนด์ ตั้งเป้าอัตราเข้าพักปีแรก 70% คาดโรงแรมจะมีจุดคุ้มทุนที่ 10 ปี ตั้งเป้าผลประกอบการปีแรก 198 ล้านบาท
นายรอศักดิ์ มูลทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมอัล มีรอซ (AL MEROZ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดมุสลิมเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีประชากรถึง 1.6 พันล้านคน คิดเป็น 23% ของสัดส่วนประชากรโลก และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 2.2 พันล้านคนในปี 2030 คิดเป็น 26.4% ของจำนวนประชากรโลก ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจและมีศักยภาพสูง ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังไม่มีสถานที่พัก ที่รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แบบฮาลาล 100%
“ผมทำธุรกิจอพาร์ตเมนต์และร้านอาหารโซเฟีย เป็นร้านอาหารฮาลาลที่เปิดกว่า 20 ปี และรับกรุ๊ปทัวร์มุสลิมมากว่า 10 ปีแล้ว เห็นศักยภาพของตลาด จึงได้ร่วมลงทุนกับพี่น้อง ด้วยงบ 1,000 ล้านบาท ไม่รวมมูลค่าที่ดิน เปิดธุรกิจฮาลาลโฮเต็ล 100% ในชื่อ Al Meroz ซึ่งมีความหมายว่า มรดก”
โรงแรมอัล มีรอซ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ครึ่ง บนถนนรามคำแหงซอย 5 เป็นตึกสูง 16 ชั้น มีห้องพัก 242 ห้อง เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องประชุมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่จุคนได้ 500-1,200 คน ห้องอาหาร 3 ห้อง ห้องละหมาด ฟิตเนส และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยมีพนักงานมุสลิมกว่า 60% ซึ่งจะบริหารงานโดย นายสัญญา แสงบุญ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป และคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะคุ้มทุนภายใน 10 ปี
นายสัญญา แสงบุญ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอัล มีรอซ เผยว่า “โรงแรมเปิดซอฟต์โอเพนนิ่งปลายพฤศจิกายน ขณะนี้มีอัตราผู้เข้าพัก 65% มีสัดส่วนลูกค้าจากยุโรป 50% และเอเชีย 50% ซึ่งรวมถึงตลาดมุสลิมระดับไฮเอนด์ ที่มียอดใช้จ่ายราว 10,000 บาทต่อวัน กลุ่มลูกค้าทั้งหมดนี้มาจากการขายผ่านเอเย่นต์ 30% ที่เหลือเป็นทางออนไลน์และกลุ่มคอร์ปอเรต คาดว่าภายใน 3 ปี จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยได้ 80%
ปีนี้ได้จัดงบการตลาด 50 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อโปรโมทคอนเซ็ปต์ฮาลาลให้เป็นที่รู้จัก ทั้งในและต่างประเทศ โดยในเมืองไทย เรายังไม่มีคู่แข่งฮาลาลโฮเต็ล ส่วนคู่แข่งต่างประเทศ คือ เกาหลี และญี่ปุ่น โดยทั้งสองประเทศกำลังมีความตื่นตัวในฮาลาล มีโปรเจกต์เกี่ยวกับฮาลาลราว 40-50 แห่ง
แนวทางการตลาดของโรงแรม เน้นเรื่องของโรดโชว์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและร่วมงานเทรดโชว์ที่เบอร์ลิน ดูไบ และลอนดอน โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้ามุสลิมและต่างศาสนิกชนในแถบเอเซีย เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมถึงแถบตะวันออกกลางและยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ