xs
xsm
sm
md
lg

“ซูเปอร์สปอร์ต” ลุยออนไลน์ เป้า 5 ปีขึ้นแท่นท็อป 50 โลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“โทนี่ มอร์ตั้น” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซูเปอร์สปอร์ต” วางหมาก 5 ปี ขึ้นสู่ท็อป 50 เครือข่ายค้าปลีกกีฬาของโลก อัดงบลงทุน 1.6 พันล้านบาท ดันยอดขายทะลุ 1.45 หมื่นล้านบาท สยายปีกช่องทางออนไลน์ ปูพรมสาขาทั่วไทยครบ 250 แห่ง

นายโทนี่ มอร์ตั้น กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารเครือข่ายร้านกีฬา “ซูเปอร์สปอร์ต” ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า “ซูเปอร์สปอร์ต” วางแผน 5 ปี (2559-2563) โดยใช้งบลงทุนรวม 1.6 พันล้านบาท เพื่อขยายเครือข่ายซูเปอร์สปอร์ตให้ครบ 250 สาขาจากปัจจุบันที่มีประมาณ 71 สาขา โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวม 1.45 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึง 85% เพื่อเป้าหมายการเป็นเครือข่ายค้าปลีกกีฬาอันดับที่ 50 ของโลก พร้อมขึ้นเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่รายได้รวม

ในปี 2558 “ซูเปอร์สปอร์ต” มีรายได้ 8 พันล้านบาท เติบโต 15% มีกำไรเติบโต 20% ขณะที่ตลาดอุปกรณ์กีฬารวมเติบโตเพียง 7% โดยสินค้าขายดี 5 กลุ่มแรกคือ รองเท้าออกกำลังกาย เติบโต 21%, รองเท้าลำลอง 17%, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย 14%, เครื่องออกกำลังกาย 10% และฟุตบอล 9% โดยในตั้งเป้าหมายเติบโตในปี 2559 ประมาณ 12% คิดเป็นยอดขายรวม 9,012 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนรวม 485 ล้านบาท

นายโทนี่ กล่าวด้วยว่า จากการจัดอันดับร้านค้าปลีกกีฬาทั่วโลกโดย “สปอร์ตติ้งกู้ด อินเทลลิเจ้นซ์” พบว่า “ซูเปอร์สปอร์ต” ติดอันดับที่ 61 ของโลก มีการเติบโต 14% ถือเป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำแทนอินโดนีเซียภายใน 2 ปี

“แผนระยะยาว 5 ปีจะปรับปรุงรูปแบบสาขาตามแนวคิดใหม่ด้วยการขยายธุรกิจผ่านช่องทางที่มีอยู่และช่องทางใหม่ คือพัฒนาธุรกิจนอกประเทศไทย พัฒนาธุรกิจการเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าและผู้แทนการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่องซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับอีกหลายแบรนด์ นอกจากนี้ยังจะมีการจัดทำแผนและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ตลอดจนสร้างเว็บไซต์ซูเปอร์สปอร์ต เป็นต้น”

ส่วนแผนการลงทุนปี 2559 จะเปิดสาขาใหม่อีก 30 สาขา แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศไทย 25 สาขา แยกเป็นร้าน “ซูเปอร์สปอร์ต” 5 แห่ง (เซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช, บิ๊กซี พัทยา, โรบินสัน ลพบุรี และเซ็นทรัลนครราชสีมา เป็นต้น), ร้าน “สเก๊ตเชอร์” 8 แห่ง, ร้าน “ครอคส์” 5 แห่ง, ร้าน “นิวบาลานซ์” 4 แห่ง, ร้าน “สปีโด้” 1 แห่ง, ร้าน “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” 1 แห่งและร้าน “บาร์เซโลน่า” 1 แห่ง ส่วนอีก 5 สาขาอยู่ในประเทศเวียดนามแบ่งเป็น ร้าน “ซูเปอร์สปอร์ต” 1 แห่ง, ร้านครอคส์ 2 แห่ง และร้านนิวบาลานซ์ 2 แห่ง ซึ่งในเวียดนามตั้งเป้าเติบโต 32%

นอกจากนั้นยังจะปรับปรุงสาขาซูเปอร์สปอร์ตระดับท็อปที่มียอดขายเกิน 5 ล้านบาทต่อเดือน ประมาณ 20 แห่งด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ให้เข้ากับการตลาดที่เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีดิจิตอลเข้ามาเสริมบริการและมีโซนสำหรับกิจกรรมกีฬาต่างๆ เป็นต้น เริ่มที่สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต และจะปรับอีก 3 สาขาคือ ปิ่นเกล้า บางนา และเซ็นทรัลเวิลด์

นายโทนี่ กล่าวด้วยว่า “ซูเปอร์สปอร์ต” ยังจะขยายช่องทางออนไลน์โดยการเปิดตัวซูเปอร์สปอร์ตออนไลน์ชอปปิ้ง พร้อมตั้งเป้ายอดขายสินค้าผ่านออนไลน์ 3% หรือประมาณ 350 ล้านบาทจากยอดขายรวมภายใน 5 ปี โดยปีนี้จะนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายเพิ่มเป็น 134 แบรนด์จากปีที่ผ่านมามี 77 แบรนด์และเพิ่มสินค้าเป็น 3 พันรายการจากปีก่อน 1,184 รายการ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมตลาดต่างๆ ด้วยงบประมาณ 160 ล้านบาท อีกทั้งยังจะมีการเปิดตัวแคตตาล็อกออนไลน์ ตลอดจนให้ความสำคัญลูกค้าผ่านบัตร “เดอะวันการ์ด” ด้วย โดยปีที่แล้วมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเดอะวันการ์ด 1.42 ล้านคน เติบโต 22% และเป็นยอดขายที่มาจากการซื้อผ่านบัตรเดอะวันการ์ด 69% เติบโต 5%



กำลังโหลดความคิดเห็น