บอร์ด กทพ.สั่ง กก.กำกับสัญญาทางด่วนศรีรัช และสัญญาทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ พิจารณารายละเอียดเพื่อไม่ให้กระทบสัญญาเดิม กรณีก่อสร้างทางเชื่อม 2 โครงการ ก่อนชง ครม.เห็นชอบเพิ่มเติมเนื้องานหลังพิจารณาพบเป็นสาระสำคัญ ขณะที่ BEM ยันพร้อมรับค่าก่อสร้าง 300 ล้านบาท
พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กทพ. เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาถึงการก่อสร้างทางเชื่อมต่อ (แลมป์) เพิ่มเติมโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครในส่วนของทิศทางออกเมือง เชื่อมกับทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับสัญญาทางพิเศษศรีรัช และคณะกรรมการกำกับสัญญาพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนฯ พิจารณารายละเอียดกรณีการสร้างทางเชื่อมต่อ ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญที่เพิ่มเติมจากแบบและสัญญาโครงการเดิม และกรณีที่จะไม่เก็บค่าผ่านทางเพิ่มในทางเชื่อมดังกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับของทั้ง 2 สัญญาจะพิจารณาว่างานส่วนที่เพิ่มเติมดังกล่าว ควรจะทำเป็นสัญญาเพิ่มเติม หรือเป็นการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) หรือทำเป็นข้อตกลงแบบอื่น จากนั้นสรุปเรื่องเสนอที่ประชุมบอร์ด กทพ.อีกครั้ง และตามขั้นตอนจะเสนอไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับทางเชื่อมดังกล่าว เพื่อรองรับรถในทิศทางออกเมืองด้านเหนือไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ระยะทางประมาณ 800 เมตร เนื่องจากแบบเดิมนั้นแนวเส้นทางจากด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 6 แล้ว จะมีทางเชื่อมในทิศทางเข้าเมืองเท่านั้น แต่ไม่มีทางเชื่อมทิศทางออกเมือง ดังนั้นรถที่ต้องการออกเมืองขึ้นไปทางเหนือจะต้องลงพื้นราบเพื่อใช้ถนนด้านล่าง ซึ่งจะทำให้เกิดความแออัดบริเวณหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 และบางซื่อ ทางเชื่อมนี้จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะที่มาจากฝั่งธนบุรีหากต้องการขึ้นไปทางเหนือจะไม่ต้องเข้ายมราช ซึ่งจะช่วยลดความแออัดบนสะพานพระราม 8 และสะพานพระปิ่นเกล้าได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กทพ.ได้เจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานก่อสร้างและบริหารโครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนฯ เบื้องต้นแล้ว โดยบริษัทมีความพร้อมในการออกแบบและรับผิดชอบค่าก่อสร้างทางเชื่อมดังกล่าว วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท
