ผู้จัดการรายวัน 360 -ตลาดหลอดไฟ 2.5 หมื่นล้านบาทแข่งดุ เหตุสินค้าจีนคุณภาพต่ำราคาถูกบุกแย่งตลาด “แลมป์ตั้น” ชิงปรับตัวผุดโชว์รูมแฟล็กชิปสโตร์ย่านพระราม 2 มั่นใจปี 59 ยอดขายพุ่ง 10-15% ก่อนโตพรวด 50% ภายใน 5 ปี เผยแนวคิดตั้ง “สเปเชียลสโตร์” ศูนย์รวมหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างทุกแบรนด์ดังคลุมสี่มุมเมืองกรุงเทพฯ
ดร.กฤษฎา ไชยสงวนมิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลมป์ตั้น ไลท์ติ้ง 2001 จำกัด ผู้ผลิตหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง “แลมป์ตั้น” (LAMPTAN) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดโชว์รูม “แลมป์ตั้น” บนพื้นที่ 400 ตร.ม. ซึ่งถือเป็นแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกของบริษัทฯ ภายในโครงการซิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์ “เดอะไบรท์” ภายในเครือ “แลมป์ตั้น กรุ๊ป” ย่าน ถ.พระราม 2 เมื่อประมาณปลายปี 2558 นับจากนี้จึงมีแผนขยายธุรกิจด้วยการจัดตั้งโชว์รูมทั่วทุกพื้นที่ตามที่ตั้งโครงการต่างๆ ของพันธมิตรธุรกิจ
บริษัทฯ ยังมีแผนดำเนินธุรกิจ “สเปเชียลสโตร์” (Special Store) เพื่อเป็นศูนย์กลางค้าส่งและปลีกหลอดไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างทุกชนิดของพันธมิตรผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ด้วยงบลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปีจะมีสาขากระจายในสี่มุมเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ รังสิต พระราม 2 บางนา และบางใหญ่ พร้อมกับดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครือคือ บริษัท แลมป์ตั้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยจะเน้นพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เช่น สุพรรณบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี เป็นต้น
ดร.กฤษฎากล่าวด้วยว่า ตลาดรวมหลอดไฟและโคมไฟในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหลอดไฟ 1 หมื่นล้านบาท และโคมไฟ 1.5 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 10% ตามการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในส่วนของ “แลมป์ตั้น” ถือเป็นผู้นำตลาดหลอดไฟในประเทศ เฉพาะในส่วนของแบรนด์ไทยด้วยสัดส่วน 11-13%
“ในปี 2558 บริษัทฯ มียอดขายประมาณ 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นหลอดไฟ 90% และโคมไฟ 10% ส่วนใหญ่เป็นการทำตลาดภายในประเทศ 90% และส่งออก 10% ครอบคลุมทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย โดยในปี 2559 จะใช้งบประมาณ 8% จากยอดขายในการดำเนินกิจกรรมทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นประมาณ 10-15% และเพิ่มเป็น 20% ภายใน 5 ปีนับจากนี้”
ปัจจุบันผู้นำตลาดหลอดไฟและโคมไฟคือ “ฟิลิปส์” ด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% บริษัทฯ จึงวางตำแหน่งทางธุรกิจของหลอดไฟ “แลมป์ตั้น” ในระดับกลางถึงสูง โดยเน้นคุณภาพ มาตรฐาน และเทคโนโลยีระดับสูงเทียบเท่า แต่มีราคาต่ำกว่าประมาณ 20-30% เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีประหยัดไฟของหลอด LED และอื่นๆ ที่เป็นจุดขายของหลอดไฟถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ผู้ผลิตแต่ละรายต่างมีความชำนาญมากขึ้น แต่สิ่งที่ผู้ผลิตจะต้องให้ความสำคัญมากขึ้นคือการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ให้แสงสว่างและช่วยผู้บริโภคประหยัดมากขึ้น
“นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2526 บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์มาตลอด เริ่มตั้งแต่เป็นผู้ส่งออกและรับช่วงการผลิตภายใต้แบรนด์ต่างๆ 100% จนกระทั่งปี 2544 กลับมาเน้นตลาดภายในประเทศ 90% และส่งออก 10% ขณะเดียวกันในปี 2559 มีแผนที่จะเริ่มทำตลาดส่งออกอีกครั้งเพื่อเป็นรายได้เสริมจากภาวะการแข่งขันในประเทศที่รุนแรงขึ้น อันเนื่องมาจากถูกสินค้าจีนคุณภาพต่ำแย่งตลาดด้วยกลยุทธ์ด้านราคาที่ถูกกว่าถึง 50%” ดร.กฤษฎากล่าวในที่สุด