ผู้จัดการรายวัน 360 - “ลาซาด้า” เผยรายได้ใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทะลุ 4.6 หมื่นล้านบาท ระบุพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมชอปออนไลน์มากขึ้น พบยอดขายสินค้าผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟนสูงถึง 60% ของยอดขายทั้งหมด เตรียมจัดแคมเปญออนไลน์ครั้งใหญ่ 15-18 มี.ค. 59 ฉลองครบรอบ 4 ปีแห่งความสำเร็จ คืนกำไรสู่ผู้บริโภคด้วยแคมเปญ “Birthday Sale! เกิดต้องช้อป!” มหกรรมซื้อขายสินค้าออนไลน์ตลอด 4 วัน ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. 59
นายอเล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร “ลาซาด้า ประเทศไทย” กล่าวว่า “ลาซาด้า” เป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มอบสินค้าให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรมากกว่า 16 ล้านชิ้นจากร้านค้าขนาดย่อมและขนาดกลาง รวมถึงแบรนด์สินค้าชั้นนำ โดยภายหลังจากที่ได้พัฒนามาร์เก็ตเพลสสำหรับผู้ค้าออนไลน์กว่า 4 หมื่นราย ทำให้มีการก้าวหน้าทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดถึง 900% ในปี 2558
“ลาซาด้ากรุ๊ป” ถือเป็นผู้นำด้านการชอปปิ้งและแพลตฟอร์มพื้นที่ขายของออนไลน์ ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมประกาศความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 4 ปี ด้วยมูลค่าซื้อขายสินค้าโดยรวมสูงถึง 4.6 หมื่นล้านบาทจากทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม โดยปัจจุบันมีผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มกว่า 8.4 พันรายและคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ในช่วงสิ้นปี 2558 พบว่ายอดขายสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน “ลาซาด้า” บนสมาร์ทโฟนคิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด เนื่องจากมีผู้บริโภคเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาสู่การชอปปิ้งออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ลาซาด้า” ผ่านสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์และไอโอเอสกว่า 30 ล้านครั้งในช่วงที่มีฟีเจอร์ใหม่ รวมไปถึงการมีนักชอปออนไลน์หน้าใหม่เข้ามาชอปปิ้งผ่าน “ลาซาด้า” อย่างต่อเนื่อง
นายอเล็กแซนดรอกล่าวด้วยว่า ความสำเร็จของ “ลาซาด้า” ได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น การมีสินค้ามากมายจากหลากหลายหมวดหมู่ให้ได้เลือกสรร และการให้บริการจัดส่งผ่านบริษัทในเครือเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์ชอปปิ้งออนไลน์ที่ดีเยี่ยม
“ลาซาด้า ประเทศไทย” มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามาร์เก็ตเพลสเพื่อดึงดูดผู้ค้าให้เข้ามาร่วมกับ “ลาซาด้า” อย่างต่อเนื่อง โดย “ลาซาด้า มาร์เก็ตเพลส” เป็นแพลตฟอร์มการขายสินค้าออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางได้มีหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ โดย “ลาซาด้า” ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการแก่ผู้ค้าชาวไทยอย่างครบวงจร ตั้งแต่การรับรายการสั่งซื้อสินค้าไปจนถึงการจัดส่งถึงหน้าประตูบ้านผู้บริโภค รวมไปถึงการเข้าถึงศูนย์ข้อมูลของ “ลาซาด้า” โดยตรง เจ้าของธุรกิจจึงสามารถดูการวิเคราะห์โครงสร้างทางธุรกิจและรายงานผลประกอบการเพื่อนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
นายอเล็กแซนดรอกล่าวด้วยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีของการดำเนินงาน “ลาซาด้า” จึงจัดแคมเปญ “Birthday Sale! เกิดต้องช้อป!” ในระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2559 โดยผู้สนใจเพียงเข้าไปที่ http://www.lazada.co.th/birthday-sale หรือแอปพลิเคชันของ “ลาซาด้า” บนสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส
แคมเปญดังกล่าวผู้บริโภคชาวไทยจะได้พบกับสุดยอดดีลของ “ลาซาด้า” อย่างหลากหลาย เช่น โปรโมชันซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ, การแฟลชเซลสุดเอ็กซ์คลูซีฟทุก 4 ชั่วโมง, สินค้ากว่า 400 ชิ้นที่นำมาลดราคาล้างสต๊อกเริ่มต้นที่ 40% ทุกวัน, ร่วมเล่นเกมชิงรางวัลจากเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของ “ลาซาด้า”, ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปประเทศญี่ปุ่นทันทีเมื่อเลือกซื้อสินค้าใน “เทสโก้ โลตัส” บนเว็บไซต์ของ “ลาซาด้า” โดย “ลาซาด้า” ยังได้เลือกสรรสินค้าไฮไลต์จากแบรนด์ชั้นนำหลากหลายหมวดหมู่ รวมถึงจัดโปรโมชันร่วมกับธนาคาร พันธมิตร และบริษัทด้านการโทรคมนาคม
“มหกรรมซื้อขายสินค้าออนไลน์ตลอด 4 วันเต็มครั้งนี้มีการนำเสนอความหลากหลายของสินค้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เลือกสรรกันอย่างจุใจ พร้อมดีลสุดพิเศษและส่วนลดกว่า 90% จากสินค้าในแต่ละหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไอที อุปกรณ์กีฬา ยานยนต์ และสินค้าหมวดสุขภาพและความงาม นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรทางการค้าชั้นนำ เช่น แอปเปิล ไมโครซอฟท์ เจบีแอล เบบี้เลิฟ และเมย์เบลลีน ที่ได้นำสินค้ามาร่วมจัดรายการในมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีครั้งนี้ด้วย”
นายอเล็กแซนดรอกล่าวตอนท้ายว่า ในปี 2559 “ลาซาด้า” เตรียมเปิดให้บริการใหม่เพื่อมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าให้แก่ผู้บริโภคและผู้ค้าออนไลน์ เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวบริการสำคัญอย่างบริการชำระเงินออนไลน์ที่ช่วยให้การชอปปิ้งออนไลน์ง่ายขึ้น อย่าง helloPay บริการจัดส่งสินค้าด่วน และ Fulfilment Center สำหรับผู้ค้าออนไลน์ โดย “ลาซาด้า” จะทำหน้าที่เป็นคลังเก็บสินค้า ให้บริการแพกและจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภคเพื่อลดเวลาในการดำเนินการของผู้ค้าชาวไทย รวมไปถึงการนำฟีเจอร์ Shop in Shop มาใส่ไว้ในแอปพลิเคชันของ “ลาซาด้า” เพื่อให้แบรนด์สินค้าสามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
ด้าน นายธรินทร์ ธนียวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์และการตลาด “ลาซาด้า ประเทศไทย” กล่าวว่า เราเห็นถึงความสำคัญของผู้ค้าออนไลน์ทุกคน รวมไปถึงผู้ค้าที่ยังใหม่และผู้ที่ยังมีประสบการณ์การขายออนไลน์น้อย จึงจัดงานครั้งนี้ขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของพวกเขามีการเจริญเติบโตมากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เข้ามาเรียนรู้และรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรงจากบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงในโลกอี-คอมเมิร์ซ โดยได้จัดทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ค้าออนไลน์ในทุกขั้นตอนของการขาย ตั้งแต่การตั้งหน้าร้านไปจนถึงการทำการตลาดและการสร้างฐานผู้บริโภค
อนึ่ง “ลาซาด้ากรุ๊ป” เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มการชอปปิ้งและพื้นที่ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย (www.lazada.co.id) มาเลเซีย (www.lazada.com.my) ฟิลิปปินส์ (www.lazada.com.ph) สิงคโปร์ (www.lazada.sg) เวียดนาม (www.lazada.vn) และไทย (www.lazada.co.th)
