ทอท.เปิดอาคาร 2 สนามบินดอนเมืองอย่างเป็นทางการแล้ว เผยปัจจุบันมีผู้โดยสาร 1 แสนคนต่อวัน คาดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคนครองอันดับ 1 สนามบินที่มีผู้โดยสารโลว์คอสต์แอร์ไลน์สูงสุดในโลก คาดปีนี้รายได้เชิงพาณิชย์แตะ 1,000 ล้าน
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ว่า ปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีจำนวนผู้โดยสารสายการบินต้นทุนต่ำสูงสุดในโลก โดยตามแผนการพัฒนาดอนเมืองระยะ 3 แล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 40 ล้านคนต่อปี โดยจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลัง 1 และก่อสร้างลานจอดรถเพิ่มรองรับได้อีกไม่ต่ำกว่า 3,000 คัน พร้อมจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ในปี 2558 ดอนเมืองรองรับผู้โดยสารเฉลี่ย 82,000 คนต่อวัน หรือประมาณ 29 ล้านคนต่อปี และเที่ยวบินเฉลี่ย 620 เที่ยวบินต่อวัน คาดว่าปีงบประมาณ 2559 (ต.ค. 58-ก.ย. 59) ปริมาณผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะเติบโตถึง 26% หรือมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งเกินขีดความสามารถในการรองรับ จึงเปิดให้บริการอาคาร 2 สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 102 ปีของสนามบินดอนเมือง โดยปัจจุบันมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มเป็น 100,000 คนต่อวัน และมีเที่ยวบินประมาณ 680 เที่ยวบินต่อวัน คาดว่าหลังจากเปิดอาคาร 2 แล้วจะทำให้รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของสนามบินดอนเมืองมีประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ อาคาร 2 ได้ติดตั้งระบบการตรวจกระเป๋าสัมภาระระบบใหม่ “Inline Baggage Screening System” ซึ่งผู้โดยสารไม่ต้องผ่านขั้นตอนนำกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องเอกซเรย์ก่อนเข้ากระบวนการตรวจบัตรโดยสาร (Check in) โดยสามารถเริ่มตรวจบัตรโดยสารที่เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารของสายการบินได้เลย หลังจากนั้นกระเป๋าสัมภาระจะถูกวางลงสายพานลำเลียงกระเป๋าเพื่อเข้าไปยังห้องตรวจสัมภาระ โดยผู้โดยสารจะต้องตรวจดูกระเป๋าสัมภาระของตนเองผ่านจอโทรทัศน์วงจรปิดหน้าห้องตรวจสัมภาระ บริเวณท้ายเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร หากสัมภาระของผู้โดยสารไม่มีวัตถุที่ต้องห้ามหรือเป็นอันตรายจะผ่านห้องตรวจนี้และลำเลียงขึ้นเครื่องบิน แต่หากมีการตรวจพบวัตถุต้องห้าม สัมภาระจะถูกนำออกจากสายพานเพื่อให้ผู้โดยสารเปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง
นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า อาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 (ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศ) ตั้งอยู่ถัดจากอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 (ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศ) โดยมีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารอยู่ที่ชั้น 1 และ 3 ของทั้งสองอาคาร และมีจุดบริการด้านการขนส่งสาธารณะต่างๆ ที่ชั้น 1 ได้แก่ รถประจำทางสาย A1-A2 และรถ Airport LimoBus Express จะแวะจอดรับผู้โดยสารที่ประตู 15 เคาน์เตอร์สำหรับให้เช่ารถจะอยู่ที่ประตู 9-14 รถแท็กซี่จะจอดรอให้บริการที่ใต้อาคารจอดรถ 7 ชั้น ซึ่ง ทอท.ได้บริหารจัดการรถแท็กซี่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการจดรายละเอียดการเดินทางและข้อมูลของผู้โดยสารเพื่อป้องกันการหลงลืมทรัพย์สินและเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ทดม.ยังได้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณห้องพักรอแท็กซี่ โดยได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ระหว่างผู้โดยสารรอคิวขึ้นรถแท็กซี่ เช่น เก้าอี้นั่งพักคอย โทรทัศน์แพร่ภาพบันเทิง พร้อมทั้งประสานงานกับสหกรณ์แท็กซี่ 13 แห่งเพื่อจัดรถแท็กซี่เข้ามาให้บริการในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารคับคั่ง และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการรอคิวใช้บริการแท็กซี่เป็นเวลานาน
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาระบบบริหารจัดการคิวใช้บริการรถแท็กซี่และติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดพร้อมจอแสดงภาพบริเวณจุดรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่ไปยังชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 เมื่อผู้โดยสารเดินออกจากสายพานรับกระเป๋าแล้วผู้โดยสารสามารถตัดสินใจได้ว่าจะรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่หรือจะใช้ระบบการขนส่งสาธารณะประเภทอื่นที่ ทดม.จัดเตรียมไว้ให้นอกเหนือจากการจัดระบบขนส่งสาธารณะแล้ว ทอท.ยังได้อำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ต้องรอขึ้นเครื่องหรือเที่ยวบินล่าช้า หรือต้องการพักผ่อนใช้พื้นที่ส่วนตัว ทอท.ได้จัดสรรพื้นที่บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ด้านทิศเหนือ สำหรับเป็นห้องพักขนาดเล็กเรียกว่า “Sleep Box” มีห้องพักทั้งหมด 25 ห้อง แต่ละห้องมีพื้นที่ประมาณ 15 ตารางเมตรพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง และยังมีห้องอาบน้ำบริการด้วย นอกจากนั้น ทอท.ยังมีบริการระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (Wi-Fi) ซึ่งปี 2558 ที่ผ่านมา ทดม.ได้รับการจัดอันดับให้เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการ Wi-Fi เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย