“สมคิด” ตั้ง 4 คณะทำงานย่อยดึง CEO สถาบันการศึกษาร่วมวงวางแผนเคาะประตูนักลงทุนต่างชาติ หลังพบสัญญาณการลงทุนมาไทยเพียบ ปลื้ม FDI 2 หมื่นล้านบาท เทียบกับปีก่อนเพิ่มเท่าตัว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศษฐกิจ เปิดเผยหลังประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่หรือ New S Curve ว่าได้ตั้งคณะทำงานย่อย 4 กลุ่ม มีทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อเร่งดึงนักลงทุนให้ตรงตามเป้าหมายให้เร็วขึ้น ได้แก่ กลุ่มอาหาร การเกษตรขั้นสูง เทคโนโลยีชีวภาพ มีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย ดูแล, กลุ่มดิจิตอล อีโคโนมี มีนายสุชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดูแล, กลุ่มอุตฯ ไฮเทค ปิโตรเคมี เครื่องมือแพทย์ มีนายกานต์ ตระกูลฮุน อดีตผู้บริหาร บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ปตท.สผ., กลุ่มครีเอทีฟ แอนิเมชัน ภาพยนตร์ มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.พาณิชย์ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศดูแล
“ขณะนี้นักลงทุนต่างประเทศรายใหญ่สนใจมาลงทุนไทยมากเราต้องออกไปดึงเขาด้วย ดังนั้น การทำงานก็ต้องอาศัยความสัมพันธ์ของเอกชนเขามาเสริมเพื่อให้การดึงการลงทุนเป็นเชิงรุก เช่น นักลงทุนรายใหญ่ของรัสเซีย 3-4 รายที่ผมได้ชักชวนสนใจเข้ามาลงทุนช่วง 1-2 เดือนจากนี้ และตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) เดือน ม.ค. อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2 เท่าตัว จะเห็นว่าสัญญาณมาแล้ว” นายสมคิดกล่าว
นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันคณะทำงานขับเคลื่อนการลงทุนฯ ได้กำหนดจำนวนนักลงทุนใน 9 คลัสเตอร์ มีกลุ่มเป้าหมาย 600 บริษัท แต่นายสมคิดต้องการให้เจาะในกลุ่มนี้ให้เร็วขึ้น จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 4 ชุดย่อยเพื่อทำงานให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเร็วขึ้น โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเริมการลงทุน (บีโอไอ) พิจารณารายละเอียดของการทำงานภายใน 1-2 วันจากนี้ และกลับมานำเสนอเพื่อออกแพคเกจชักจูงการลงทุนลักษณะเคาะประตูบ้าน (น็อกดอร์) ให้ตรงเป้าหมายที่สุด โดยจะเลือกจากนักลงทุนรายใหญ่ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายก่อน