xs
xsm
sm
md
lg

แนะ 10 ช่องเจาะตลาดจีน ใช้ “ฮ่องกง-มาเก๊า” เป็นฐาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์ไทย-จีน ระบุชัดจุดเด่นตลาดจีนคือจำนวนผู้บริโภคชนชั้นกลางกว่า 400 ล้านคน รวมมหาเศรษฐีกว่า 80 ล้านคน เผยเคล็ดลับใช้ฮ่องกง หรือมาเก๊าเป็นฐานธุรกิจโดยไม่จำเป็นต้องเข้าจีนโดยตรง แนะ 10 ปัจจัยสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ประเทศจีนยังคงถือเป็นตลาดสำคัญที่มีความน่าสนใจเข้าไปดำเนินธุรกิจต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของจำนวนผู้บริโภคในระดับชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูงซึ่งมีเป็นจำนวนสูงถึง 400 ล้านคน ในขณะที่ผู้บริโภคชั้นสูงในระดับมหาเศรษฐี หรือ Super Rich ซึ่งมีมากถึง 80 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 1.35 พันล้านคน

“จากการศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ธุรกิจกับนักธุรกิจไทยจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีนพบว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศจีนโดยตรง แต่สามารถใช้ฮ่องกง หรือมาเก๊าเป็นฐานธุรกิจเพื่อเปิดตลาดไปยังเมืองต่างๆ ทั้ง 31 มณฑลในประเทศจีนได้เช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่มักไม่คำนึงว่าผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจนั้นมาจากประเทศใด เพราะให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพมากกว่า”

ปัจจัยสำคัญที่นักธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญมากคือเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ซึ่งจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ของสำนักงานควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันโรคจีน (AQSIQ) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักเสมือนหน่วยงานสำคัญๆ ของประเทศไทยรวมกัน ทั้ง สมอ., อย., กรมประมง และอื่นๆ โดยสามารถสั่งแบนสินค้าจากประเทศต่างได้ หากสินค้ามีปัญหาปนเปื้อนจุลินทรีย์ วัตถุเจือปน ฉลาก บรรจุภัณฑ์ และใบรับรองที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันหากสินค้าใดที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวจะได้รับภาพลักษณ์ที่ดีและสามารถทำตลาดได้ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.อักษรศรียังให้ 10 คำแนะนำแก่ผู้สนใจเปิดตลาดสินค้าในประเทศจีน ดังนี้ 1. ต้องมีความเชี่ยวชาญในสินค้าและตลาดที่ตนดำเนินธุรกิจ 2. ไม่มีปัญหาด้านการเงิน 3. เลือกตลาดเป้าหมาย หรือเมืองต่างๆ ที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศจีนได้อย่างถูกต้อง 4. มีเครือข่ายธุรกิจในรูปแบบ หรือลักษณะต่างๆ ในประเทศจีน อย่างน้อยที่สุดคือการมีบริษัทตัวแทนในการดำเนินธุรกิจ 5. ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต้องมีความพร้อมเต็มในการเดินทางไปยังประเทศจีนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่มีเพียงเงินลงทุน แต่ไม่เคยไปดูแลธุรกิจ

6. ผู้บริหารระดับสูงต้องมีความรู้ด้านภาษาจีนกลางเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ แต่หากยังมีความชำนาญไม่มากนักควรมีล่ามประจำองค์กร โดยมีข้อแนะนำเพิ่มเติมให้ใช้ล่ามนักศึกษาไทยในประเทศจีนซึ่งถือเป็นนักศึกษาต่างชาติที่มีเป็นจำนวนมากลำดับที่สามในประเทศจีน ทั้งยังสามารถไว้วางใจได้มากกว่าล่ามภาษาจีนจากประเทศอื่นๆ 7. ธุรกิจจำเป็นต้องมีสายป่านด้านการเงินในระยะยาวเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ 8. ต้องเข้าใจวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจกับชาวจีน 9. ต้องเข้าใจกฎระเบียบการค้าในประเทศจีน และ 10. ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ในการดำเนินธุรกิจซึ่งถือเป็นข้อสำคัญมากที่ทำให้หลายๆ ธุรกิจจากประเทศไทยต้องประสบความล้มเหลว



กำลังโหลดความคิดเห็น