xs
xsm
sm
md
lg

อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข! เผยชาว “เจนเอ็กซ์” คือแชมเปียนขาชอปดิจิตอลตัวจริง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผลการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2558 โดย “วีซ่า” (Visa Consumer Payment Attitudes Study 2015) เปิดเผยว่า “เจเนอเรชันเอ็กซ์” (Generation X) หรือ “เจนเอ็กซ์” คือคลื่นลูกใหม่ในตลาดที่พร้อมจะลองใช้วิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงและใช้จ่ายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคผู้บริโภค ในขณะที่กลุ่มลูกค้า “เจเนอเรชันวาย” (Generation Y) หรือ “เจนวาย” ก็เข้าสู่วัยที่มีฐานะการเงินที่ดีขึ้น

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคชาวไทยยุค “เจนเอ็กซ์” ยังคงไปได้ดี โดยหกในสิบ (59%) ของนักชอป “เจนเอ็กซ์” ชาวไทยนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่าเงินสดเพราะปลอดภัยมากกว่า เมื่อเทียบกับสี่ในสิบ (42%) ของนักชอป “เจนวาย”

การศึกษาทัศนคติผู้บริโภคในการชำระเงินของ “วีซ่า” ได้จำแนกและเก็บข้อมูลแนวคิดที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยการศึกษาฉบับนี้ให้คำนิยาม “เจเนอเรชันเอ็กซ์” ว่า กลุ่มคนอายุระหว่าง 35-60 ปี และ “เจเนอเรชันวาย” คือกลุ่มคนอายุ 18-34 ปี

“สุริพงษ์ ตันติยานนท์” ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “วีซ่า” เล็งเห็นถึงเทรนด์ “เหล้าใหม่ในขวดเก่า” ซึ่งเห็นได้ชัดจากที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงอย่าง “เจนเอ็กซ์” ที่มีการเปิดรับและทดลองใช้ช่องทางดิจิตอลใหม่ๆ ในการชำระเงินอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านอุปกรณ์มือถืออย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในบางกรณีมากกว่า “เจ็นวาย” นอกจากนี้ยังเล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มผู้บริโภค “เจ็นวาย” ที่มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางประชากรแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ดีทั้งสำหรับภาคธุรกิจ และสถาบันการเงิน

ถึงแม้ว่าเงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินหลัก แต่การชำระเงินรูปแบบอื่นๆ เริ่มเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ผลการสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า 66% ของคน “เจนวาย” และ 44% ของคน “เจนเอ็กซ์” นิยมใช้แอปพลิเคชันบนมือถือในการชอปปิ้งออนไลน์ ชี้ให้เห็นว่าการชำระเงินในรูปแบบใหม่ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

กลุ่มผู้บริโภคทั้ง “เจนเอ็กซ์” และ “เจนวาย” นิยมชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในจำนวนเท่าๆ กันคือ 81% และ 82% ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่า (77%) เป็นที่น่าสนใจว่ากลุ่ม “เจนเอ็กซ์” ให้ความสำคัญต่อความง่ายในการจ่ายเงินออนไลน์มากกว่า “เจนวาย” (60% เปรียบเทียบกับ 56%) และคิดว่าสะดวกมากกว่าใช้เงินสด (60% เปรียบเทียบกับ 55%)

สำหรับเทรนด์การชำระเงินรูปแบบใหม่ในอนาคตพบว่า การชำระเงินผ่านมือถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกำลังเป็นที่น่าจับตามองในขณะนี้ โดยการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้รับการนิยมมากที่สุดทั้งสำหรับผู้บริโภค “เจนเอ็กซ์” (50%) และ “เจนวาย” (55%) ตามมาด้วยการสั่งซื้ออาหารแบบจัดส่งถึงที่อีก 51% แต่กลุ่มที่ตัดสินใจซื้ออาหารออนไลน์มากกว่าคือกลุ่มผู้บริโภค “เจนวาย” (64% เปรียบเทียบกับ 41%) อย่างไรก็ตาม มากกว่า 54% ของคนยุค “เจนเอ็กซ์” ซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตและเทศกาลงานต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากกว่าคนยุค “เจนวาย” (43% )

การกลับมาซื้อซ้ำยังเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคกลุ่ม “เจนเอ็กซ์” ชื่นชอบการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ตัวอย่างเช่น 63% ของผู้ทำแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาเคยซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์จำพวกความงามและเครื่องสำอางผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเท่านั้นหลังจากเริ่มชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพาแค่หนึ่งปี นอกจากนี้ ทั้งผู้บริโภค “เจนเอ็กซ์” และ “เจนวาย” สนใจที่จะซื้อสินค้าในร้านค้าแต่ชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพาจำพวกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (67% และ 59% ตามลำดับ)

เมื่อกล่าวถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรง ณ ปัจจุบัน ทั้งสองเจเนอเรชันให้ความสนใจในการชำระเงินผ่านอุปกรณ์ไฮเทคที่สวมใส่ (Wearables) เท่าๆ กัน คือ “เจนเอ็กซ์” 80% และ “เจนวาย” 87% โดย 3 ประเภทสินค้าหลักที่พวกเขาสนใจในการซื้อผ่านเทคโนโลยี Wearable คือ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม และบัตรชมภาพยนตร์

“เจนเอ็กซ์” อาจจะเป็นกลุ่มที่ “มีอายุ” แต่อย่าลืมว่านี่คือเจเนอเรชันที่ไม่รอช้าที่จะลองเทคโนโลยีใหม่ เพราะพวกเขาคือกลุ่มคนรุ่นแรกที่ซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเป็นกลุ่มคนที่ยอมจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่เท่ากระติกน้ำไปใช้ในบ้าน

“ถ้าเรามองความเปิดกว้างที่จะลองเทคโนโลยีใหม่ๆ และกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มเจนเอ็กซ์แล้ว การที่เราจะจำกัดการบริการให้เหมาะแก่เด็กวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียมอย่างเดียวก็จะเป็นการตีกรอบให้ตัวเองมากไป วีซ่าจึงได้ทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่มธนาคารและร้านค้าในการเพิ่มนวัตกรรมการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง และพร้อมนำความรู้ผนวกกับเครือข่ายวีซ่าที่มีอยู่ทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ทุกคนสามารถจ่ายเงินและรับเงินได้อย่างดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม” นายสุริพงษ์กล่าว

อนึ่ง การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของวีซ่า จัดทำโดยบริษัท Acorn ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฏาคม 2558 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 3 พันคนจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และไทย โดยผู้ที่ร่วมทำแบบสอบถามเป็นชายและหญิงอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปที่มีบัตรชำระเงินอย่างน้อยหนึ่งใบและมีการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างสม่ำเสมอ



กำลังโหลดความคิดเห็น