ผู้จัดการรายวัน 360 - ลมพัดตึง!! ชี้หมดยุคหว่านเหมาทุกสื่อ ยักษ์สื่อวิทยุจ่อคิวล้มหลายราย รายใหม่หน้าเก่าใจรักหวนยึดคลื่นทำด้วยใจอีกครั้ง “วาสนพงศ์” เจ้าพ่อวิทยุอัด 30 ล้านบาท ขอ 8 ชม.ปลุกคลื่นข่าว FM105 หวังขึ้นบัลลังก์ใน 1 ปี พร้อมรายได้คุ้มทุน
นายวาสนพงศ์ วิชัยยะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท โอ น้อย ออก จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อวิทยุกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อทุกประเภทในเวลานี้ถือเป็นช่วงขาลงเนื่องจากแต่ละสื่อมีตัวเลือกมากขึ้น มีผู้แข่งขันสูงขึ้น เกิดโอเวอร์ซัปพลาย ทั้งในส่วนของสื่อทีวีและสื่อวิทยุ เพราะมีสื่อทางเลือกเข้ามามากมาย ขณะที่เม็ดเงินโฆษณายังเท่าเดิม
เห็นได้จากสื่อทีวีปัจจุบันที่มีช่องทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น 20 กว่าช่อง หากสายป่านไม่ยาวพอและบริหารต้นทุนไม่ดีย่อมต้องไปต่อไม่ไหวเช่นที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งนี้มองว่าในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะมีทุกสื่อให้ครอบคลุมเพราะจะทำให้ต้นทุนเพิ่ม ในขณะที่สื่อหลักของตัวเองยังไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นปีนี้จะเป็นอีกปีที่จะได้เห็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดต้องล้มทั้งยืน ไปต่อไม่ไหว จากสื่อหลักในมือรวมถึงสื่อรองอย่างวิทยุ
ในส่วนสื่อวิทยุนั้นจะเห็นว่ามีทั้งคนที่ต้องการทำสื่อนี้จริงกับนำสื่อนี้สนับสนุนสื่อหลัก โดยปีนี้ยังจะได้เห็นผู้เล่นทั้งรายเก่ารายใหม่เข้าออกในสื่อนี้อยู่ จนไปถึงปีหน้ามองว่าสื่อวิทยุจะเริ่มนิ่งและเป็นไปตามทิศทางเดียวกับสื่อทีวีดิจิตอลที่จะเห็นความชัดเจนของผู้เล่นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตัวเองได้หยุดทำธุรกิจสื่อวิทยุไป แต่ปีนี้พร้อมนำทีมงานเดิมกลับมาทำธุรกิจวิทยุใหม่อีกครั้ง ด้วยการเช่าเวลาในคลื่นวิทยุ FM105 จากกรมประชาสัมพันธ์ เป็นเวลารวม 8 ชม. ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ทำเป็นคลื่นข่าวรูปแบบทอล์กนิวส์ แบ่งช่วงรายการเป็น 4 ช่วงและบางช่วงเป็นการเชื่อมสัญญาณจากรายการทางช่องนิวส์ทีวีมาออกอากาศด้วย เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีกระแสตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้คุ้มทุนที่ 30 ล้านบาทและขึ้นแท่นเป็นผู้นำคลื่นวิทยุเซกเมนต์ข่าว แซงคลื่นเดิมอย่าง 96.5, 101 และ 90.5 ได้
“การกลับมาทำธุรกิจสื่อวิทยุในครั้งนี้จะต้องคำนึงถึงต้นทุนให้มากที่สุด จึงเริ่มจากการเช่าเวลาเพียง 8 ชม.ต่อวัน การทำสัญญาแบบปีต่อปีเพื่อลดความเสี่ยง อีกทั้งการทำสื่อวิทยุในรูปแบบบริษัทขนาดเล็กทำให้เกิดความคล่องตัวและวางแผนต้นทุนได้ดี รวมถึงดึงลูกค้ามาซื้อสื่อโฆษณาได้คล่องตัวกว่า ตามแผนงานที่วางไว้ซึ่งจะมีทั้งการจัดอีเวนต์สนับสนุนและใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ตามที่คาดหวังไว้” นายวาสนพงศ์ กล่าว