ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกรมประชาสัมพันธ์และ กอ.รมน.เดินหน้าโครงการรณรงค์เครือข่าย “อย่าให้ใครว่าไทย” ที่ขอนแก่น สนองนโยบาย “ประยุทธ์” หวังสร้างวินัยให้คนในชาติรู้รักสามัคคี และไร้หนี้ ไม่ฟุ้งเฟ้อ มีเงินออม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “อย่าให้ใครว่าไทยสัญจร” ในระดับภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, กรมประชาสัมพันธ์, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน., เครือข่ายอนาคตไทย และสภาหอการค้าไทย ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงเครือข่ายภาคประชาชนและภาคประชาสังคมในเขต จ.ขอนแก่น เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 500 คน
นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า มหกรรมอย่าให้ใครว่าไทยเป็นการกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อสนองต่อนโยบายของรัฐบาล โดยมีสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์, สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้นร่วมกับเครือข่ายกว่า 86 องค์กร โดยมุ่งเน้นส่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมหลังพบว่าปัจจุบันประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยมีสื่อเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญของการสร้างค่านิยมที่ผิดไปในหลายรูปแบบ
การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสร้างค่านิยมพื้นฐานที่ดีให้แก่สังคมไทย พยายามลงลึกครอบคลุมในระดับพื้นที่ ซึ่งขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ของการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ลดเลิกพฤติกรรมที่ไม่ดี ด้วยการกำหนดใช้พฤติกรรมเชิงบวก 4 มิติ ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ, สังคม, สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมมาปรับใช้ในรูปแบบของวัฒนธรรมกลยุทธ์หนามยอกเอาหนามบ่ง เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศไทยที่อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ อย่าให้ใครว่าไทยขี้โกง อย่าให้ใครว่าไทยไร้สติ และอย่าให้ใครว่าไทยมักง่าย
“มีวินัยกับความเพียร ไร้หนี้ มีปัญญา เป็นประเด็นหลักที่รัฐบาลมุ่งเน้นให้คนไทยทั้งประเทศได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสร้างเครือข่ายในระดับพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ในเขต จ.ขอนแก่นได้ให้ความสำคัญและให้ความสนใจในการเข้าร่วมกับแผนการดำเนินงานดังกล่าวอย่างมากเพื่อก่อให้เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องของความไม่ฟุ้งเฟ้อ” นายศิวาโรจน์กล่าว และว่า
ขณะเดียวกัน จากการสำรวจยังพบอีกว่าปัญหาเรื่องหนี้สินที่เกินตัวเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งการดำเนินการในโครงการดังกล่าวจะเน้นหนักในกระบวนการการเผยแพร่ค่านิยมไม่ฟุ้งเฟ้อในการที่จะกำหนดใช้เงินที่ต้องคิดก่อนใช้ เพื่อที่จะกระตุ้นการรับรู้ว่าการใช้เงินให้คุ้มค่าแต่พอดีนั้นคนขอนแก่นและคนไทยทุกคนสามารถที่จะทำได้”
นายศิวาโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือเครือข่ายอนาคตไทยที่ขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งแผนการดำเนินงานเชิงรุกที่จากนี้ไปทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมจนนำไปสู่การสะท้อนปัญหาสังคมไทยจากเดิมไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ทุกคนนั้นสามารถที่จะทำได้ เพราะหากไม่เร่งแก้ไขปัญหาก็จะส่งผลต่อการเกิดปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะยาวจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวพบว่าคนขอนแก่นนั้นตื่นตัวและให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายอนาคตไทยอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อการต่อยอดแนวทางการปฏิบัติที่สามารถทำได้จริง และขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนสังคมไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปในที่สุด