“กกพ.” เผยทิศทางค่า Ft งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 59) มีทิศทางสูงขึ้นแม้ราคาก๊าซฯ จะลดตามทิศทางน้ำมันแต่ไม่มากพอเมื่อเทียบกับต้นทุนอื่นๆ ทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ต้นทุนซื้อไฟจากพลังงานหมุนเวียน การผลิตไฟจากน้ำที่ลดต่ำ ย้ำจะพยายามบริหารจัดการไม่ให้ขึ้น
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 59) ยอมรับว่าต้นทุนมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟจะลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันก็ตามแต่มีปัจจัยอื่นที่เพิ่มขึ้นทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ความต้องการใช้ไฟแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสภาวะอากาศที่ร้อน รวมถึงการผลิตไฟจากน้ำที่ลดลง และต้นทุนการซื้อไฟจากพลังงานหมุนเวียนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กกพ.จะบริหารจัดการเพื่อไม่ให้ค่าไฟฟ้าขยับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แม้ราคาก๊าซฯ ยังเป็นทิศทางขาลงอยู่เพราะสูตรราคาก๊าซฯ จะสะท้อนน้ำมันช่วง 6-8 เดือนย้อนหลังแต่เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 36 บาทต่อเหรียญสหรัฐก็อ่อนค่าลงมาจากปลายปี ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวที่ 30 กว่าเหรียญฯ ต่อบาร์เรล ทำให้ราคาก๊าซฯ ลดลงเพียง 6 บาทต่อล้านบีทียูเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ขณะที่ความต้องการสูงขึ้นก็ต้องไปเดินเครื่องที่ใช้เชื้อเพลิงที่สูงกว่าแทน การผลิตไฟฟ้าจากน้ำก็ต่ำ ต้นทุนเหล่านี้โดรวมเมื่อหักลบกับก๊าซฯ จึงมีทิศทางสูงขึ้นเล็กน้อย
“กกพ.จะพยายามบริหารจัดการซึ่งต้องยอมรับว่ากลไกหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปและอีกส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าต้นทุนการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ก็สูงมาก โดยค่า Ft ปี 58 เทียบกับกลางปี 57 ต้นทุนจากการซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนกระทบค่าไฟสูงเพิ่มขึ้นถึง 7.3 สตางค์ต่อหน่วย และแนวโน้มส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอีก โดยปี 2558 กกพ.มีการพิจารณาค่า Ft ลดลงรวม 22.62 สตางค์ต่อหน่วยก็สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และงวดใหม่ ม.ค.-เม.ย.ก็ลดลงเช่นกัน” นายวีระพลกล่าว