“บางจาก” ซื้อกิจการธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่ม Sun Edison ที่ญี่ปุ่นรวม 198 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 2,915 ล้านบาท สอดคล้องกลยุทธ์ที่ต้องการุกธุรกิจพลังงานทดแทนและกระจายความเสี่ยง
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บริษัท บีซีพีจี จำกัด (BCPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ลงนามในสัญญา Purchase and Sale Agreement กับบริษัท Sun Edison International จำกัด (SEI) และบริษัท Sun Edison Energy Holding (Singapore) จำกัด (SEH)เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดของกลุ่ม Sun Edison ในวงเงินไม่เกิน 9,626 ล้านเยน หรือประมาณ 2,915 ล้านบาท คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 198 เมกะวัตต์ สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ต้องการลงทุนพลังงานทดแทนและยังเป็นการเพิ่มมูลค่ากิจการ กระจายความเสี่ยงด้วย
สำหรับโรงไฟฟ้าของกลุ่ม Sun Edison ประกอบด้วย โครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว 13 เมกะวัตต์ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 27 เมกะวัตต์ และโครงการระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า บางจากฯ จะเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน 3 บริษัท ได้แก่ Sun Edison Japan Corporation จำกัด (SEJ) ,บริษัท Sun Edison Japan Debt Financing จำกัด (SEDF) และบริษัท Sun Edison TK Investor 1 จำกัด (SETK)
โดย SEJ มีส่วนทุนของกิจการ 489 ล้านเยน หรือราว 148 ล้านบาท เป็นผู้พัฒนาโครงการ บริหารจัดการ ก่อสร้างและดำเนินการ รวมถึงบริหารเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น โดยมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 185 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 27 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
ส่วน SEDF มีส่วนทุนของกิจการ 2.64 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 67 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 3 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น และ SETK มีส่วนทุนของกิจการ 7.43 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 188 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น
สำหรับเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว บางจากจะใช้เงินสดภายในบริษัทฯโดยการชำระเงินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน การชำระครั้งแรก ในวงเงินไม่เกิน 4,141 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 1,254 ล้านบาท โดยอ้างอิงจากการประเมินมูลค่าของโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว โครงการระหว่างการก่อสร้าง และโครงการที่มีความพร้อมในการก่อสร้าง รวมประมาณ 63 เมกะวัตต์ รวมถึงมูลค่าของ SEJ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการทำหน้าที่พัฒนาโครงการใหม่ และบริหารจัดการการลงทุน ส่วนที่เหลือจะชำระตามเงื่อนไขความสำเร็จของแต่ละโครงการ