“เจโทร” มองเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งภาคการส่งออกและภาคการผลิต หลังได้แรงกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากจากภาครัฐ พร้อมแจ้งจะเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นบริษัทญี่ปุ่นในไทย 3 ก.พ.นี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 28 ม.ค. 2559 ได้หารือกับนายมายาสุ โฮซูมิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2559 ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และจะส่งผลให้การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ อาทิ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยการให้เงินกู้แก่เกษตรกร เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของเกษตรกรระดับฐานราก
ทั้งนี้ เจโทรยังได้นำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ซึ่งเจโทรจัดทำการสำรวจดังกล่าวปีละ 2 ครั้ง มาเป็นระยะเวลา 45 ปี แล้ว เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยของการดำเนินธุรกิจของญี่ปุ่นในประเทศไทย รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาลไทย โดยเจโทรแจ้งว่าจะเผยแพร่ผลการสำรวจดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ก.พ. 2559
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความคืบหน้าของการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งไทยแจ้งว่า อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบของเข้าร่วมความตกลงดังกล่าว โดยไทยขอให้เจโทรให้การสนับสนุนด้านข้อมูลต่างๆ ของญี่ปุ่นเกี่ยวกับความตกลง TPP ด้วย ส่วนบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) คาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2559 ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังคงสนับสนุนให้ไทยและญี่ปุ่นเพิ่มการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ คือ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น ให้มากขึ้นอีกด้วย
สำหรับญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าและนักลงทุนสำคัญของไทยมาโดยตลอด และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) ทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้าเฉลี่ยปีละ 62,031.29 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2558 การค้ารวมระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีมูลค่า 51,311.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 10.37 มูลค่าการนำเข้ารวม 31,235.86ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 12.03 และมูลค่าการส่งออกรวม 20,075.90 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.66