ผู้จัดการรายวัน 360 - “อิชิตัน” จัดเต็ม รุกหนักทุกทาง หวังกระตุ้นตลาดชาเขียวให้เติบโต 10% จากปีที่แล้วตลาดรวมตกลง 2.5% พร้อมทั้งผลักดันยอดขายรวมอิชิตันสู่ 7,500 ล้านบาท
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2559 จะต้องทำการตลาดทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการออกสินค้าใหม่ การออกขนาดบรรจุภัณฑ์ใหม่ การทำโปรโมชั่น ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาด เพื่อที่จะกระตุ้นตลาดรวมชาเขียวให้เติบโตมากกว่า 10% และผลักดันยอดขายของอิชิตันรวมไปถึง 7,500 ล้านบาทให้ได้
ทั้งนี้ ตลาดรวมชาเขียวเมื่อปีที่แล้ว 2558 พบว่ามีการบริโภคชาพร้อมดื่มรวม 470.7 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นประมาณ 0.7% ในขณะที่การบริโภคมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 15,574 ล้านบาท ลดลงประมาณ 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ในท้องตลาดที่ใช้สงครามราคาเข้ามานำตลาดตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงหลักๆจะอยู่ที่ 2 แบรนด์ใหญ่ คือ “โออิชิ” กับ “อิชิตัน” ส่วนแบรนด์อื่นมีความพยายามสร้างแบรนด์และจุดยืนตัวเอง เช่น การชูเรื่องปราศจากน้ำตาล หรือใช้ชาอูหลงเป็นจุดขายซึ่งแบรนด์ใหม่ที่ไม่มีการปรับตัวก็จะกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างชัดเจน
ตลาดรวมปีที่แล้วตกลงจากอดีตที่มีแต่เติบโตตั้งแต่ปี 2554 ที่มีตลาดรวมมูลค่า 9,481 ล้านบาท ปี 2555 มูลค่า 13,177 ล้านบาท ปี 2556 มูลค่า 16,143 ล้านบาท ปี 2557 ตกลงเหลือ 15,969 ล้านบาท
นายตันกล่าวต่อว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปจะไม่หยุดอยู่แค่กรเป็นผู้ผชิตชาเขียวพร้อมดื่มเท่านั้นซึ่งภายในปีนี้จะเห็นสินค้าใหม่ๆ อีกมากที่นอกเหนือจากชาเขียวหรือชาพร้อมดื่มที่จะทยอยออกสู่ตลาดในไตรมาสที่สามปีนี้เป็นต้นไปซึ่งคาดว่าตลาดรวมใหม่ๆที่อิชิตันจะเข้าไปรุกตลาดมีส่วนแบ่งทางการตลาดปีรวมกันถึง 40,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะใช้งบตลาดรวม 900 ล้านบาท หรือ 12% จากยอดขาย ไม่สามารถที่จะประหยัดได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
นายธนพันธุ์ คงนันทะ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม กล่าวว่า จากตัวเลขของเอซีนีลสันระบุว่า ปี 2558 ตลาดชาพร้อมดื่มในแง่มูลค่ามีประมาณ 15,574 ล้านบาท ตกลง 2.5% จากปี 2557 โดยมี อิชิตัน เป็นผู้นำตลดาด้วยแชร์ 43.4% โออิชิ แชร์ 35.9% เพียวริคุ แชร์ 5.7% จับใจ แชร์ 4.6% ลิปตัน แชร์ 3.7% และอื่นๆ รวม 6.7% ส่วนตลาดชาเขียวแบบยูเอช 250 มล. มีมูลค่า 1,476 ล้านบาท ตกลง 16.13% โดยมีโออิชินำตลาดด้วยแชร์ 57% อิชิตัน แชร์ 255 และ เย็นเย็น แชร์ 16%
นายธนพันธุ์กล่าวต่อว่า แผนการรุกตลาดปีนี้คงจะทำมากขึ้น กลยุทธ์ใดไม่เคยทำก็ต้องทำ กลยุทธ์ใดที่เคยทำแล้วก็จะพัฒนาและมีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น กลยุทธ์ไซซิ่งโดยได้ปรับขนาดให้มีความหลากหลายถึง 7 ขนาด ตั้งแต่ 290 มล.ถึง 840 มล.ราคาตั้งแต่ 10-27 บาท โดยเฉพาะไซส์เล็กปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวมถึง 1,000 ล้านบาท
ส่วนกล่องยูเอชทีที่ทุกวันนี้เป็นเบอร์สองมาตลอดก็จะปรับใหญ่ด้วยการออกขนาดใหญ่ 300 มล. แต่ราคาเดิม 10 บาท ซึ่งตลาดยูเอชทีปีที่แล้วตกลง 16% มีมูลค่า 1,476 ล้านบาท โออิชิ ขนาด 125 มล. มีแชร์ 57% อิชิตัน แชร์ 25% รวมกับเย็นเย็นที่มีแชร์ 16% ก็ยังแพ้ โออิชิ แต่มั่นใจว่าไซส์ใหม่ราคาเดิมนั้นจะทำตลาดได้มากขึ้น
กลยุทธ์โปรโมชันรหัสรวยเปรี้ยง ภาค 6 ที่จะเปิดตัวในช่วงซัมเมอร์ สินค้าใหม่คือ อิชิตันที่ปราศจากน้ำตาลผสมมัทฉะอูลหงซูการ์ฟรี วางตลาดเหดือนหน้า เน้นทำตลาดผ่านออนไลน์ ส่วนแบรนด์ ไบเล่ จะขยายไปยังเซกเมนต์อื่นมากขึ้น จากเดิมที่เน้นน้ำส้ม จะออกสินค้าใหม่ไบเล่ น้ำส้ม 100% แบบยูเอชที จากเดิมปีที่แล้วมียอดขาย 250 ล้านบาท
กลยุทธ์สร้างแบรนด์ เย็นเย็น เป็นครั้งแรกที่บริษัทฯใช้พรีเซ็นเตอร์พร้อมกันถึง 4 คนในสินค้าตัวเดียวกันเพื่อขยับแบรนด์ให้ดูใหญ่ขึ้นและดึงดูดตลาดทั้ง 4 ภาคคือ เอกชัย ศรีวิชัย, เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณาเรศ, เปาวลี-พรพิมล เฟื่องฟุ้ง และ พิมฐา-ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล เป็นเน็ตไอดอล โดยเร็วๆ นี้จะเปิดตัวแคมเปญใหม่ด้วยการร่วมมือกับทางจีเอ็มเอ็ม ผลิตรายการร่วมกันชื่อรายการ “เสือติดปีก” ถ่ายทอดผ่านช่อง ONE 31 ในเดือน ก.พ. 59 เพื่อแจกรางวัล 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ อิชิตันจะรุกตลาดชาเขียวซูการ์ฟรีมากขึ้นเนื่องจากเป็นเทรนด์ของตลาด แม้จะมีมูลค่าแค่ 275 ล้านบาทก็ตาม โดยขณะนี้มีหลายแบรนด์ทำตลาดคือ ทีพลัส 28%, ฟูจิชะ 28%, อิโตเอ็น 19%, อิชิตัน 12%, โออิชิคาบูเซฉะ 11% และพ็อคคา 3%