ผู้จัดการรายวัน 360 - โอกาสทองโฮมชอปปิ้งเอเชียบูม “ฮุนได โฮมช็อปปิ้ง” พร้อมปักธงบุกเอเชีย ล่าสุดปี 59 รุกคืบลุยไทยและเวียดนาม หวังใน 3 ปี รายได้ในไทยไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมขึ้นแท่นท็อป 3 ใน 10 ปี
นายลี แฮซึง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮ ช็อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “ฮุนได โฮมช็อปปิ้ง” ถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านโฮมชอปปิ้งในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีจุดแข็งอยู่ที่การมีฐานเป็นธุรกิจค้าปลีกกับห้างสรรพสินค้า “ฮุนได” ทำให้รู้จักพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคได้ดี รวมถึงสามารถกำหนดราคาสินค้าได้ตรงตามความต้องการ กระจายสินค้าได้ดี ส่งผลให้ในแง่ของรายได้จาก “ฮุนได โฮมช็อปปิ้ง” ในเกาหลีใต้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในอันดับหนึ่ง แต่เมื่อหักรายได้จนเหลือแต่กำไรแล้วถือว่าอยู่ในอันดับหนึ่งของตลาด
“ตลาดโฮมชอปปิ้งในเกาหลีใต้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2543 ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 4% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกรวม ส่วนผู้เล่นในตลาดหลักๆ ที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการมีเพียง 7 ราย ส่วนแบบไม่เป็นทางการมีอีกราว 10 ราย ขณะที่ใน 7 รายนี้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 3 รายคือ “จีเอสช็อป” ที่จับมือกับทรูวิชั่นส์, เดอะมอลล์ และซีพี ออลล์ เปิดตัวช่อง “ทรู ซีเล็คท์” ออกอาการทางทรูวิชั่นส์ ส่วนรายที่สองคือ “CJ O Shopping” หนึ่งในบริษัทในเครือซีเจกรุ๊ปจับมือกับแกรมมี่ เปิดตัวช่อง “โอ ช้อปปิ้ง” ออกอากาศในระบบเคเบิลทีวี
ล่าสุดคือ “ฮุนได โฮมช็อปปิ้ง” จับมือกับอินทัช โดยใช้เวลากว่า 9 เดือนในการร่วมทุน ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 500 ล้านบาท แบ่งเป็นอินทัช ถือหุ้น 51% และฮุนได โฮมช็อปปิ้ง 49% โดยจะพร้อมเปิดตัวช่อง “ไฮ ช็อปปิ้ง” อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ศกนี้เป็นต้นไป ทางทีวีดาวเทียมระบบซี-แบนด์ และเคยูแบนด์ ออกอากาศผ่านทาง PSI ช่อง63, GMMZ ช่อง 45, BIG4 ช่อง 40, DTV ช่อง 37 และเอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ ตลอด 24 ชม. ด้วยการนำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งเครื่องครัว, เครื่องสำอาง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์กีฬา และสินค้าแฟชั่น เป็นต้น
“ไฮ ช็อปปิ้ง” เน้นกลุ่มแม่บ้านเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงเทคโนโลยี โดยกว่า 45% เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ และ 55% เป็นสินค้าในไทย ตั้งเป้าใน 3 ปีจะมีรายได้ 3 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาทใน 5 ปี พร้อมติด 1 ใน 3 ของตลาดโฮมชอปปิ้งในไทยที่มีมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 20% ทุกปี โดยคาดว่าในปี 2565 มูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายลี แฮ ซึง กล่าวต่อว่า ตลาดโฮมช้อปปิ้งในไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจุบันยังมีสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ของมูลค่าตลาดรวมค้าปลีกไทย มูลค่า 3.3 ล้านล้านบาท โดยมองว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดโฮมชอปปิ้งไทยขณะนี้ คล้ายกับโฮมช้ออปปิ้งเกาหลีใต้ในปี 2543 ที่ผ่านมา ทั้งในแง่การแข่งขัน ผู้เล่นในตลาด รวมถึงกำลังซื้อที่เริ่มปรับตัวรับกับตลาดโฮมชอปปิ้งมากขึ้นต่อเนื่อง ส่วนจะมีใครเข้ามาอีกหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายรายที่สนใจตลาดโฮมชอปปิ้งในไทย
ทั้งนี้ “ฮุนได โฮมช็อปปิ้ง” เข้ามาทำตลาดโฮมชอปปิ้งในไทยในภูมิภาคเอเชียเป็นประเทศที่ 2 รองจากจีนที่เข้าไปทำตลาดมาตั้งแต่ 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา และนอกจากประเทศไทยแล้ว ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ยังพร้อมที่จะเปิดตัวในประเทศเวียดนามเป็นอันดับที่ 3 ต่อไป โดยจะลงทุนในลักษณะร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นคือ DTV เวียดนาม นอกจากนี้ยังมีความสนใจและศึกษาตลาดในประเทศอื่นๆ ของภูมิภาคนี้อีกหลายประเทศ ส่วนจะมีการลงทุนในประเทศใดต่อไปนั้นยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้