xs
xsm
sm
md
lg

“ฟาร์มโชคชัย” ปรับโมเดลธุรกิจ ผนึกญี่ปุ่นอัปแวลู “อืมม...มิลค์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โชค บูลกุล
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ฟาร์มโชคชัย” ปรับโมเดลลงทุน ดึงญี่ปุ่นร่วมมืออัปเกรดผลิตภัณฑ์จากนม เล็งลดบาทบาทนมพาสเจอไรซ์ เพราะกำไรต่ำ เน้นนมแลคโตสกำไรสูง พร้อมรีโนเวตกลุ่มท่องเที่ยวที่พักใหม่

นายโชค บูลกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท ฟาร์มโชคชัยกรุ๊ป กล่าวว่า ทางกลุ่มอยู่ระหว่างการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เนื่องจากปีหน้ามองว่ายังไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยภาพรวมจะดีขึ้นเลย โดยจะปรับการดำเนินงานให้มีประสิทธิผลมากขึ้น

ทั้งนี้ กลุ่มฟาร์มโชคชัยวางแผนที่จะขยายธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการเติบโตและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ด้วยการร่วมมือกับทางผู้ที่มีเทคโนโลยีต่างประเทศ ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มทุนของญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเช่นกัน เพื่อต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ “อืมม...มิลค์”

โดยบริษัทฯ จะใช้จุดแข็งที่มีอยู่ คือ วัตถุดิบนมที่ผลิตเองประมาณ 20 ตันต่อวัน และป้อนให้กับร้านอืมม...มิลค์ 5 ตันต่อวัน นอกนั้นจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจทั่วไป ซึ่งส่วน 15 ตันนี้เองที่มีแผนจะป้อนใหักับพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่นนี้ในการนำไปต่อยอดและยกระดับสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าการส่งน้ำนมดิบเช่นเดิมที่ขายได้แค่ 19 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่า 100% เพราะญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีการผลิต เบื้องต้นมองไปที่ผลิตภัณฑ์ชีสเป็นหลักก่อนซึ่งเราเองก็ไม่มี โดยใช้ร้านอืมม...มิลค์ของเราเองที่มีอยู่ 25 สาขาเป็นช่องทางจำหน่าย และยังเจรจากับพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่นอีกรายเกี่ยวกับเทรดดิ้งเพื่อเป็นช่องทางรุกต่างประเทศ

รวมทั้งจะลดการขายนมพาสเจอไรซ์ลงด้วยเพราะเป็นสินค้าควบคุมราคาและมีการแข่งขันสูง และจะหันมาเน้นนมสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตส ซึ่งเริ่มมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีการเติบโตดีเพราะราคาสูงกว่า ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมของเรามีนมพาสเจอไรซ์ นมแลคโตส ไอศกรีม โยเกิร์ต และขนมต่างๆ

นอกจากนั้นแล้วในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยวที่พักก็อยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงใหม่ เนื่องจากมองว่าการที่จะหารายได้เพียงที่พักอย่างเดียวไม่คุ้มเพราะการแข่งขันที่พักในย่านปากช่อง เขาใหญ่ รุนแรงอยู่แล้ว และมีผู้ประกอบการที่พักมาก จึงวางแผนที่จะหันมาทำเป็นแนวที่พักเชิงการศึกษา เช่น การเปิดแคมป์การเรียนรู้ต่างๆ หรือการเปิดเป็นแคมป์ภาษาอังกฤษอินเทอร์แอ็กทีฟเพื่อรองรับการเปิดเออีซีก็ได้ เป็นแนวคิดเบื้องต้น และจะเน้นท่องเที่ยวผสมอาหารด้วยจากเดิมที่แยกกัน ส่วนธุรกิจทัวร์ฟาร์มนั้นเติบโตดี มีผู้เข้าเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปี จากจำนวนผู้ที่เข้ามาในฟาร์มโชคชัยกว่า 1 ล้านคนในปีที่แล้ว

ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ให้เช่าพื้นที่โรงงานที่ปทุมธานีนั้น ขณะนี้ไม่มีผู้เช่าแล้วตั้งแต่เกิดน้ำท่วม จากเดิมมีเช่า 2 ราย ทำให้สูญเสียรายได้ไปกว่า 1,000 ล้านบาทในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และยังไม่มีแผนที่จะพัฒนาอะไรตอนนี้

สำหรับรายได้รวมของทั้งกลุ่มปีนี้ คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิมประมาณ 30% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี



กำลังโหลดความคิดเห็น