xs
xsm
sm
md
lg

“นมวัวแดง” แตกเซกเมนต์ รุกฟูดเชนขยายวัยรุ่นดันยอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “นมวัวแดง” ปรับเกมรุกหนักปี 59 รุกขยายโมเดิร์นเทรด พร้อมแตกเซกเมนต์จับตลาด ล่าสุดรุกฟู้ดเชนโมเดิร์นเทรด ผนึก “แมคโดนัลด์” ทำตลาดร่วมขยายฐานกลุ่มเด็กโตวัยรุ่น คาดปี 59 รายได้ 8.4 พันล้านบาท

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 อ.ส.ค.มีงบลงทุนประมาณ 110 ล้านบาท ทั้งการผลิต การตลาด และการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดในประเทศโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น รวมทั้งขยายช่องโมเดิรน์เทรดมากขึ้น พร้อมขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายรายได้ 8.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 6.3 พันล้านบาท นมโรงเรียน 1.2 พันล้านบาท และต่างประเทศ 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ทำรายได้ประมาณ 8.1 พันล้านบาท คิดเป็นผลกำไรประมาณ 270 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากโมเดิร์นเทรด 55% เติบโต 20% และร้านค้าทั่วไป 45% เติบโต 3%

แผนตลาดในประเทศล่าสุดได้เป็นพันธมิตรกับบริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้าน “แมคโดนัลด์” เพื่อนำผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค 3 รสชาติหลัก คือ รสจืด รสหวาน และรสช็อกโกแลต จำหน่ายในร้าน “แมคโดนัลด์” เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยเพิ่งเริ่มเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขยายช่องทางโมเดิร์นเทรดฟู้ดเชนและกลุ่มเป้าหมาย อายุ 15-20 ปี รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ที่จับแต่ละกลุ่มมากขึ้นคือ นมสำหรับเด็ก นมสำหรับคนทำงาน และนมสำหรับผู้สูงอายุ คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2559 ส่วนตลาดต่างประเทศจะขยายไปยังกลุ่มประเทศ CLMV มากขึ้น จากขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายแล้วที่ประเทศกัมพูชาและลาว ส่วนพม่ากำลังอยู่ระหว่างเจรจาหาตัวแทน

ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวว่า ตลาดนมกลุ่มเจเนอรัล มิลค์ (General Milk) ในประเทศมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย รสจืด รสหวาน และรสชอกโกแล็ต มีส่วนแบ่งตลาดรวมเพิ่มขึ้นจาก 41% เป็น 43.8% ทำให้แบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งและเป็นผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มกลุ่มดังกล่าว รองลงไปคือ “โฟร์โมสต์” มีสัดส่วนตลาด 43.7% “หนองโพ” 8.6% และ “ดัชมิลล์” 2.8%

“ไทย-เดนมาร์ค ยังมีสัดส่วนตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้นจาก 63.8% เป็น 66% ภาคกลางจาก 38.6% เพิ่มเป็น 43% ภาคเหนือเพิ่มจาก 36.4% เป็น 40.3% ส่วน กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจาก 27.8% เป็น 31% และพื้นที่ภาคใต้ตลาดเติบโตขึ้นจาก 16.5% เพิ่มเป็น 20%”

ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวอีกว่า ช่องทางตลาดสินค้าแบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” ที่ขยายตัวเติบโตมากที่สุดคือ ตลาดโมเดิร์นเทรด เติบโตประมาณ 20% ปัจจุบันมีคู่ค้ากว่า 11 ราย เช่น เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร, ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต, แม็กซ์ แวลู และแฟมิลี่ มาร์ท เป็นต้น โดยมีสัดส่วนตลาด 55% ขณะที่สัดส่วนตลาดในธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือร้านโชวห่วย มี 45% เติบโตขึ้น 3-4% และร้านสะดวกซื้อ เติบโตประมาณ 1-5 % โดยคาดว่าในปี 2559 คาดว่ายอดขายรวมจะทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ 8,482 ล้านบาท

“อ.ส.ค.มีแผนเร่งส่งเสริมเพื่อรักษาและขยายฐานตลาดนมพร้อมดื่มในส่วนของร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแผนรุกตลาดนมพร้อมดื่มทั้งกลุ่มเจเนอรัล มิลค์ และโยเกิร์ตพร้อมดื่มผสมคอลลาเจนในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน หรือเออีซี อย่างเต็มรูปแบบด้วย เช่น การทำสื่อโฆษณาเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมตลาด โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า โดยในปี 2559 ตั้งเป้าส่งออกไปยังกลุ่มเออีซีไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท คาดว่าจะยอดขายจะเติบโตขึ้นถึง 20% และเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้” ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวในตอนท้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น