xs
xsm
sm
md
lg

ชมโคนม ยลบรรยากาศท้องทุ่งเขียวชอุ่ม ที่ “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อาคารเลี้ยงโคนมแห่งแรก ของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
ใครที่มีโอกาสใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ถนนสายสำคัญที่มุ่งตรงสู่ภาคอีสาน ในช่วงอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี คงจะมีโอกาสได้เห็น “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค” หรือในชื่อปัจจุบัน “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย” (อ.ส.ค.) ที่ตั้งอยู่ริมถนนฝั่งขาเข้า สถานที่ที่ผลิตและจำหน่าย "นมไทย-เดนมาร์ค" หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “นมวัวแดง” นมกล่องยูเอชที (UHT) แสนอร่อยที่ใครหลายคนชื่นชอบ ซึ่งในปัจจุบันฟาร์มโคนมแห่งนี้ ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้คนได้ศึกษาวิธีการผลิตนม ไปพร้อมๆ กับการชมทัศนียภาพอันงดงามภายในฟาร์ม
วิวทิวทัศน์ทุ่งหญ้า เขียวชอุ่มสวยงาม
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวในฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ก็จะมีรถไถพ่วงด้วยรถรางสำหรับนั่งสัญจร ไปพร้อมๆ กับมีผู้บรรยายตลอดเส้นทางการท่องเที่ยว เมื่อล้อรถเริ่มขยับผู้บรรยาย ซึ่งในครั้งนี้ได้แก่ คุณเสน่ห์ แผลงจันทึก นักวิชาการการเกษตรประจำฝ่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตร องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ได้ฟังว่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมาว่า

“เมื่อปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสทวีปยุโรป ในการเสด็จทรงประทับแรมอยู่ ณ ประเทศเดนมาร์ค ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับกิจการการเลี้ยงโคนมของชาวเดนมาร์คเป็นอย่างมาก จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ว่าด้วยการร่วมมือด้านวิชาการการเลี้ยงโคนมระหว่างประเทศไทยและประเทศเดนมาร์ค
เหล่าโคนม รอรีดนม
จนกระทั่งในปี วันที่ 16 มกราคม 2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ค ได้ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค อย่างเป็นทางการ นับได้ว่าเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของการเลี้ยงโคนมใน ประเทศไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2514 รัฐบาลไทยได้รับโอนกิจการฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม ไทย-เดนมาร์ค จัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีชื่อว่า “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ” (อ.ส.ค.) อีกทั้งทางรัฐบาลไทยยังได้กำหนดให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันโคนมแห่งชาติ”
น้ำนมสีขาว สดจากเต้า
ตลอดเส้นทางในการนั่งรถรางท่องเที่ยวจะมีจุดแวะพัก เพื่อชมกิจกรรมต่างๆ มากมายของทางฟาร์มโคนม โดยมีจุดแวะพักเด่นๆ ที่เป็นไฮไลต์ได้แก่ “จุดชมวีดีทัศน์” จุดบรรยายข้อมูลความรู้ให้ได้ทราบประวัติความเป็นมา วิธีการเลี้ยงโคนม หากฟังบรรยายจบแล้วทุกคนจะได้รู้ว่า โคนมสายพันธุ์แรกที่ได้นำมาเลี้ยงที่ฟาร์มแห่งนี้ คือ “โคนมพันธุ์เรดเดน” ที่มีกำเนิดในประเทศเดนมาร์ค ลักษณะมีสีน้ำตาลแดงเลือดหมูทั้งตัว ซึ่งทำให้โคนมสายพันธุ์ดังกล่าวได้กลายมาเป็นตราสัญลักษณ์วัวแดงของทางฟาร์มโคมแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ถัดมาคือ “จุดชมวิวทิวทัศน์” โดยจะเป็นจุดที่สูงที่สุดของถนนที่ใช้สัญจรเที่ยวท่องเที่ยวภายในฟาร์ม โดยจะสามารถเห็นทัศนียภาพได้อย่างกว้างไกล มองเห็นถนนมิตรภาพที่ทอดยาวเข้าไปสู่ที่ราบสูงโคราชแห่งภาคอีสาน และยังจะได้เห็นท้องทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มที่ปลูกไว้สำหรับเลี้ยงโคนม หรือในบางเวลาก็อาจจะได้เห็นขั้นตอนการเก็บเกี่ยวหญ้าอีกด้วย
“โคนมพันธุ์เรดเดน” ที่มาตราสัญลักษณ์วัวแดง
“จุดชมป่าประดู่” ก็เป็นอีกจุดเที่ยวสำคัญ โดยเป็นเส้นทางเลียบลัดเลาะริมเขาตาแป้นอันเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในฟาร์มโคนมแห่งนี้ โดยพื้นที่ในป่านั้นมีต้นประดู่สูงใหญ่มากมายกว่าหมื่นต้น ซึ่งต้นประดู่นั้นเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทาน และเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดระยอง และดอกประดู่ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทยอีกด้วย

และ “จุดชมตาน้ำผุด” ที่จะได้เห็นตาน้ำผุดที่มีน้ำใสไหลออกมาในลำคลองจนเกิดเป็นน้ำสองสี ซึ่งลำคลองแห่งนี้เป็นต้นน้ำของ “น้ำตกมวกเหล็ก” หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดสระบุรี ซึ่งทำให้ได้รู้ว่าฟาร์มโคนมแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์
“คุณเสน่ห์  แผลงจันทึก” เจ้าหน้าผู้บรรยายประจำฟาร์มโคนม และเหล่าลูกวัวน่ารัก
และจุดแวะที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “จุดรีดนมโค” ซึ่งตั้งอยู่อาคารเลี้ยงโคนมแห่งแรกของฟาร์มแห่งนี้ โดยเป็นอาคารไม้เก่าที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ค ได้ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ณ ที่อาคารแห่งนี้ เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2505
บรรยากาศร่มรื่นในเส้นทางชม “ป่าประดู่” หมื่นต้น
และในปัจจุบันอาคารแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ในการรีดนมวัว โดยบรรยากาศจะเห็นเหล่าแม่วัวยืนเรียงรายให้เจ้าหน้าที่รีดนม โดยโคนมที่ถูกนำมาเลี้ยงในฟาร์มในปัจจุบันนั้นจะเป็นพันธุ์ “โฮสไตน์ฟรีเชียน” ซึ่งเป็นพันธุ์โคนมที่ให้น้ำนมปริมาณมาก มีลักษณะที่โดดเด่นคือขนสีขาว-ดำ ที่ทำให้หลายๆ เข้าใจว่าวัวนมคือวัวสีขาว-ดำ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เพราะโคนมมีอยู่หลายสีด้วยกัน และหลังจากการรีดนมวัวแล้ว ก็จะนำไปสู่วิธีการผลิตจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกจำหน่ายให้เราได้กินกัน
น้ำใสไหลเย็น ออกมาจาก “ตาน้ำผุด”
ใกล้กันนั้นก็จะเป็น “จุดป้อนนมลูกวัว” ในจุดนี้จะมีเหล่าลูกวัวหน้าตาน่ารักมากมาย ให้เราได้มาป้อนนมกัน นอกจากจุดไฮไลต์ที่ได้กล่าวมาแล้ว ภายในฟาร์มก็ยังมีจุดแวะเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ “จุดชมสวยสัตว์” ที่มีสัตว์นานาชนิดให้ได้ชม , “จุดบ่วงบาศก์” การแสดงจับวัวด้วยเชือก , “จุดการแสดงม้า” , "จุดกิจกรรมผจญภัย"
บรรยากาศการนั่งรถรางชมฟาร์มโคนม
หากใครที่กลับมาจากการตะลอนเที่ยวภาคอีสานมา และมีโอกาสใช้เส้นทางถนนมิตรวิ่งเข้าสู่กรุงเทพ “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย” (อ.ส.ค.) หรือในชื่อเดิม “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักผ่อนหย่อนใจที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามภายในฟาร์ม ได้ทำกิจกรรมผจญ ก็ยังได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติการเลี้ยงโคนมของประเทศไทย หรือจะแวะซื้อผลิตภัณฑ์นมหลากรสชาติกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้อีกด้วย
ทัศนียภาพที่จุดชมวิว มองเห็นได้อย่างกว้างไกล
********
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ตั้งอยู่ที่ ริมถนนมิตรภาพ ตำบล มิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-3634-4926
ฟาร์มโคนมเปิดให้ชมทุกวัน รอบเที่ยวชม รอบเช้า : 09.00 น. , 10.00 น. , 11.00 น. รอบบ่าย : 13.00 น. , 14.00 น. , 15.00 น. (ใช้เวลาในการเช้าชมประมาณ 1.30 ชั่วโมง ต่อรอบ)
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 120 บาท , เด็ก 70 บาท ,ผู้สูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป) 60 บาท , เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม. เข้าชมฟรี ,นิสิต/นักศึกษา 100 บาท

* * * * * * * * * * *

* * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น