MGR Online - แม่ “น้องมิลค์” เหยื่อกินสารสกัดหมามุ่ยอินเดีย เข้าแจ้งความกองปราบฯ ดำเนินคดีต่อบริษัทผลิตยาและผู้เผยแพร่ภาพศพลูกสาว ด้าน รพ.ยันไม่เคยแพร่ภาพหลุดดังกล่าว ชี้เป็นการละเมิดสิทธิที่รับไม่ได้
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา น.ส.ไอยอรอินท์ อดุลวิบูล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ซอยเจริญราษฎร์ 1 แยก 7 แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. มารดาของ น.ส.ศตพร พันทอง หรือมิลค์ อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตภายหลังรับประทานผลิตภัณฑ์หมามุ่ยอินเดียสกัด ชนิดแคปซูลยี่ห้อหนึ่ง เนื่องจากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง เหตุเกิดที่ อ.เมือง จ.ตรัง ระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายนที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ให้สอบสวนดำเนินคดีบริษัทผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หมามุ่ยอินเดียสกัดยี่ห้อหนึ่งในความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง และขอให้สอบสวนหาผู้ที่เผยแพร่ภาพ น.ส.ศตพร ขณะที่เสียชีวิตแล้วในสภาพเปลือย หลังจากศพถูกส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ รพ.รามาธิบดี ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดีดังกล่าว
น.ส.ไอยอรอินท์กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตน ขณะนี้แม้จะเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว โดยเตรียมที่จะไปบวชชีอุทิศส่วนกุศลให้แก่ลูกสาว ทางคดีคงปล่อยให้ทางตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปก่อน แต่เมื่อมาพบกรณีของการนำภาพลูกสาวตนในสภาพเปลือยหลังจากเสียชีวิตแล้วไปเผยแพร่ตามสื่อแขนงต่างๆ ทั้งสื่อโทรทัศน์หลายช่อง และสื่อสังคมออนไลน์ แม้จะมีการเบลอภาพไว้แต่ก็ทำให้รู้สึกรับไม่ได้ เรื่องนี้ตนเคยบอกกล่าวไปแล้วว่าห้ามเผยแพร่
น.ส.ไอยอรอินท์กล่าวต่อว่า ช่วงที่มีการชันสูตรศพลูกสาว ตนจำได้ว่ามีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เพียงไม่กี่คน และเมื่อสอบถามกับทาง รพ.ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้นำภาพนี้ออกมาแต่อย่างใด ตนก็ไม่ทราบว่าภาพดังกล่าวหลุดออกมาได้อย่างไร จนถูกนำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชน เป็นภาพที่ไม่น่าดู รู้สึกสะเทือนใจที่ลูกสาวเหมือนถูกกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิ ตนรับไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยห้ามปรามเรื่องการนำเสนอข่าวนี้เพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ แต่การนำภาพดังกล่าวออกเผยแพร่นั้นตนจำเป็นต้องแจ้งความเอาผิดต่อผู้ที่เผยแพร่ให้ถึงที่สุด
มารดาของเหยื่อสาวรายนี้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ด้วยว่า ลูกสาวตนกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ซึ่งการรับประทานผลิตภัณฑ์หมามุ้ยสกัดดังกล่าวมีผลทำให้เสียชีวิตทั้งแม่และเด็ก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ใดๆ เพราะผลการชันสูตรศพจากแพทย์ยังไม่ออกมา และแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวตน กรณีนี้ก็คงจะพิจารณาเอาผิดต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ธราดลกล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ได้แจ้งกับผู้ร้องแล้วว่าเนื่องจากเรื่องนี้เข้าข่ายหน้างานความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นจะส่งคำร้องทุกข์และการสอบสวนในเบื้องต้นส่งให้กับทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวรับไว้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและพิจารณาดำเนินคดีต่อไป