“อนันตพร” มั่นใจผลงานรอบ 1 ปีสอบผ่าน ประชาชนได้ใช้พลังงานราคาถูก เป็นธรรม เผยภารกิจปี 2559 เร่งสรุปแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมภายใน 4 เดือน หรือ เม.ย. 59 รู้ชัดจะเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจรอบ 21 ได้อย่างไร พร้อมสรุปแนวทางจัดการ 2 แหล่งสัมปทานหมดอายุ และสานต่อเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเข้ามารับตำแหน่งรมว.พลังงานในรอบ 1 ปี (12 ก.ย. 57 - 15 ธ.ค. 58) เห็นว่าสามารถสอบผ่าน แม้ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียมจะยังไม่สามารถได้รับการแก้ไขโดยสมบูรณ์ แต่ก็ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นบ้างแล้ว ขณะเดียวกันได้มีการลดราคาน้ำมัน ราคาค่าไฟ ราคาก๊าซฯ ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยเฉพาะการกำกับให้ผู้ค้าลดราคาน้ำมันตามต้นทุนตลาดโลกอย่างเหมาะสม
“ตอนที่เข้ามากระทรวงฯ มีหลายเรื่องที่เป็นประเด็นไม่เข้าใจด้านพลังงานก็พยายามที่จะทำให้เกิดกระบวนการรับรู้และเข้าใจมากขึ้นและเรื่องนี้ถือว่าจะต้องดำเนินการให้ต่อเนื่องในปีหน้าเพราะเป็นเรื่องสำคัญ” รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับปี 2559 แผนงานที่สำคัญคือจะดำเนินงานผลักดันการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ... โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนข้างหน้าหรือ เม.ย. 59 ก็จะรู้ถึงความชัดเจนในการเดินหน้าเปิดให้เอกชนยื่นสำรวจผลิตปิโตรเลียมรอบ 21 ต่อไปอย่างไร
นอกจากนี้ยังจะพิจารณาแนวทางการดำเนินงานสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุ 2 แหล่งช่วงปี 2565-2566 คือแหล่งเอราวัณ ของเชฟรอน และแหล่งบงกช ของ บมจ.ปตท.สผ. ซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่าทั้ง 2 แหล่งเป็นพื้นที่ปิโตรเลียมที่ยังมีศักยภาพอยู่โดยปี 2559 จะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับแหล่งดังกล่าว
ขณะเดียวกันยังจะเดินหน้าเจรจาพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อนไทย-กัมพูชา (OCA) โดยล่าสุดสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เดินทางมายังไทยเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการหารือในเบื้องต้นบ้างแล้วแต่ยอมรับว่ายังเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการแบ่งพื้นที่ปิโตรเลียมในทะเลเพราะหากประชาชนทั้งสองประเทศไม่เข้าใจจะเกิดอุปสรรคได้ในอนาคต เป็นต้น