ส.อ.ท.เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นจาก พ.ย. 57 จำนวน 4.6% โดยเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 31 เดือนจากการเร่งซื้อรถยนต์ PPV เหตุปีหน้าราคาจะแพงขึ้นจากภาษีฯ ใหม่ แต่ 11 เดือนแรกปีนี้ก็ยังลดลง 11.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ตั้งเป้าปีหน้าผลิตรถยนต์ 1.95-2 ล้านคัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน พ.ย. 58 มีจำนวนทั้งสิ้น 76,421 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 4.6% เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 31 เดือนจากการเร่งซื้อรถยนต์อเนกประสงค์ (PPV)ซึ่งมียอดขายเติบโตถึง 199% เนื่องจากจะมีราคาสูงขึ้นจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่จะมีผล 1 ม.ค. 59 รวมยอดขาย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 58)698,163 คัน ลดลงจากปี 57 จำนวน 11.9%
ขณะที่ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ม.ค.-พ.ย. 58 มีจำนวน 711,667 คัน เท่ากับ 40.43% ของยอดการผลิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.79% การผลิตเพื่อส่งออก 11 เดือนแรกปีนี้ 433,026 คัน เท่ากับ 60.85% ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.33% ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 640,005 คัน คิดเป็น 36.36% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 7.14%
“แม้ว่ารถยนต์ PPV จะมียอดขายเพิ่มขึ้นมาก แต่จากยอดขายรถยนต์นั่งและรถกระบะที่ยังลดลงแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว เพราะสินค้าเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ การลงทุนของภาครัฐยังไม่เกิดขึ้นมากนัก และการลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัวจากตัวเลขการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ด้วย” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับปี 2559 นั้น ส.อ.ท.ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์จำนวน 1.95-2 ล้านคัน แบ่งเป็น การส่งออก 1.22-1.25 ล้านคัน ยอดขายภายในประเทศ 7.5-7.8 แสนคัน