ผลสำรวจปีใหม่ 59 คาดเงินสะพัด 1.25 แสนล้านบาท เม็ดเงินสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่เป็นการเพิ่มจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้คนต้องจ่ายมากขึ้น เผยภาพรวมอาจไม่คึกคักมากนัก เหตุคนยังระวังการจับจ่ายใช้สอย “บิ๊กตู่” มาที่ 1 คนอยากให้ของขวัญและเที่ยวปีใหม่ด้วย “ธนวรรธน์” เผยผลงานรัฐบาล 1 ปี ได้คะแนน 7 เต็ม 10 หลังแก้โจทย์ยากสำเร็จ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คนทั่วประเทศว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดสูงกว่า 125,014.94 ล้านบาท แยกเป็นการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ 54,485.10 ล้านบาท ต่างประเทศ 37,631.87 ล้านบาท เลี้ยงสังสรรค์ 9,012.34 ล้านบาท ทำบุญ 7,254.89 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 14,783.07 ล้านบาท สินค้าคงทน 1,076.44 ล้านบาท สินค้าฟุ่มเฟือย 771.23 ล้านบาท โดยเป็นยอดเงินที่สูงสุดในรอบ 10 ปี และขยายตัว 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากมูลค่าสินค้าแพงขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การใช้จ่ายต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 13,926 บาท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทำให้เทศกาลปีใหม่อาจจะไม่คึกคักมากนัก เพราะประชาชนยังมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย
สำหรับการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยว 59.2% จะเดินทางออกไปเที่ยวนอกพื้นที่ อีก 40.8% จะไม่ออกนอกพื้นที่ โดยผู้ที่ออกนอกพื้นที่ 72.9% จะเดินทางท่องเที่ยว และอีก 26.9% เดินทางกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่ยังคงท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็น 80.5% เที่ยวต่างประเทศ 19.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 15.7% คิดเป็นเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12,332 บาทต่อคน และต่างประเทศ 90,247 บาทต่อคน
โดยคำอวยพรที่อยากอวยพรให้ประเทศ คือ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ค้าขายดี ประเทศปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ มีรายได้เยอะๆ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ภาคใต้สงบสุข การเมืองมีเสถียรภาพ สังคมมีความสุข คนไทยสมานฉันท์
ส่วนปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ รองลงมาคือ เสถียรภาพการเมือง ปัญหาสังคม และการรับมือกับภัยธรรมชาติ
ขณะที่บุคคลที่อยากให้ของขวัญ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และบุคคลที่อยากท่องเที่ยวด้วย คือ พล.อ.ประยุทธ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายชวน และนายทักษิณ ชินวัตร
สำหรับนักแสดงชายที่อยากให้ของขวัญ ได้แก่ แบรี่ ณเดชน์ ปอ ทฤษฎี เจมส์ จิรายุ นักแสดงหญิง ได้แก่ ญาญ่า อุรัสยา ใหม่ ดาวิกา ขวัญ อุษามณี นักร้องชาย ได้แก่ บี้ สุกฤษฎิ์ บิว จรูญวิทย์ กัน ณภัทร นักร้องหญิง ได้แก่ ใบเตย สุธีวัน นิว นภัสสร หญิงลี ธิดารัตน์ และอยากท่องเที่ยวกับนักแสดงชาย คือ แบรี่ ณเดชน์ เจมส์ จิรายุ และบอย ปกรณ์ นักแสดงหญิง คือ ญาญ่า อุรัสยา ใหม่ ดาวิกา และชมพู่ อารยา
นายธนวรรธน์กล่าวอีกว่า จากการประเมินการทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถือว่ารัฐบาลสอบผ่านภายใต้โจทย์การทำงานที่ยาก เนื่องจากต้องเผชิญปัญหาจากเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่เศรษฐกิจกรีซ เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ปัญหาการก่อการร้าย และปัญหาระหว่างตุรกีกับรัสเซียที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงภาคการส่งออกของไทย และยังเจอปัญหาภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่รัฐบาล ได้ออกมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เช่น การอัดฉีดเงินสู่รากหญ้าผ่านกองทุนหมู่บ้าน และมาตรการช่วยเหลือ SMEs ทำให้คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3 ดังนั้นจึงให้คะแนนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 7 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน
ส่วนปี 2559 คาดว่าการขับเคลื่อนเม็ดเงินการลงทุนผ่านโครงการเมกะโปรเจกต์ และเม็ดเงินจากการลงทุน 4G จะสร้างมูลค่ากลับมาหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะยาวได้เกิน 2 เท่าตัว หรือประมาณ 4 แสนล้านบาท รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ร้อยละ 3.5 แต่ปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไข คือ การเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน หลังจากยังกังวลว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีตามที่คาดไว้ และการหามาตรการดูแลราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ