“สมคิด” โชว์ศักยภาพไทยสร้างนโยบายเส้นทางสายไหมจีนเป็นจริงได้

“สมคิด” โชว์ศักยภาพเศรษฐกิจไทยและยุทธศาสตร์การพัฒนาการค้าและการลงทุนโดยเฉพาะ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายดึงลงทุนจีนร่วมพัฒนาและเปิดทางสร้างยุทธศาสตร์ One Belt One Road หรือเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 ของจีนให้เป็นจริงได้ เหตุไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ด้านจีนหวังผนึกยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยเข้ากับจีน




นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานพร้อมแสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Thailand : Moving Forward to Sustainable Growth” ในงานสัมมนา Thai - Chinese Business Forum 2015ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ว่า การค้าระหว่างไทยกับจีนขณะนี้มีมูลค่าสูงถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐและปัญหาการเมืองก็เริ่มคลี่คลายโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกำลังดำเนินการเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในปี 2560 ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยปี 2559 ก็จะเติบโตได้ระดับ 3.5-4% ประกอบกับการที่ไทยมีทำเลเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนดังนั้นไทยจะเป็นกำลังสำคัญหรือเป็นส่วนเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างบนบกและทะเลในการสร้างนโยบาย ONE BELT ONE ROAD หรือเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 ของผู้นำจีนให้เป็นจริงได้เพื่อเชื่อมเอเชียเข้ากับยุโรปและรัสเซีย

ทั้งนี้ การสัมนาดังกล่าวเป็นการจัดในโอกาสที่นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยคณะทางการของฝ่ายจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม 2558ซึ่งจีนมีการส่งรายชื่อ ยักษ์ใหญ่มาถึง 20 บริษัท เช่น หัวเหว่ย และเอสเอ็มอีอีกจำนวนหนึ่งรวมเป็น 100 รายที่มาครั้งนี้ และสิ่งสำคัญจีนเลือกบริษัทที่จะมาเจรจาการค้าและการลงทุนกับไทยที่เป็น10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย

นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 40 ปีระหว่างไทย-จีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมานาน จีนมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในภูมิภาค และการที่ไทยมีนโยบายเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ คลัสเตอร์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดี และเป็นนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยมองว่าหากรัฐบาลไทยเดินหน้าตามแผนจะทำให้เพิ่มโอกาสการทำงาน และสร้างความผาสุกให้กับประชาชนและประเทศชาติ

“ไทยและจีนมีโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ยุทธศาสตร์ที่พัฒนาต่างมีความคล้ายคลึงกัน รัฐบาลจีนยินดีร่วมกับไทยในทุกรอบด้านเพื่อพัฒนาผลักดันยุทธศาสตร์ทั้งสองประเทศ อาทิ ยุทธศาสตร์ One Belt One Road และผลักดันยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน ตลอดจนผลักดันให้จีนเข้ามาลงทุนในไทย” นายหวังกล่าว

นายหวัง จิ่นเจิน รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศร่วมกัน โดยไทยเสนอแผนพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย จีนเสนอ one belt one Rod ซึ่งมีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือไทย-จีนในฐานะที่เป็นนักธุรกิจ ควรจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากความร่วมมือดังกล่าว และมองว่าในฐานะเพื่อนบ้านไทยจีนก็ควรร่วมมือกันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์พัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนไทย-จีน