ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” หนุน “เชียงใหม่” รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก UFI Open Seminar in Asia 2016 วันที่ 25-26 ก.พ.59 ขานรับแผนยุทธศาสตร์ชาติส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ ดันอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติกระจายการค้าและการลงทุนสู่ภูมิภาค ด้าน “สมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก” เผยผู้ประกอบการหลักด้านออร์แกไนเซอร์และอีเวนต์ชั้นนำจาก 20-30 ประเทศทั่วโลกพร้อมเข้าร่วมงานกว่า 250 คน
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) นับเป็นธุรกิจบริการที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศที่อยู่ภายใต้ความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน หรือ AFAS (ASEAN Frameworks Agreement on Service) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสนับสนุนที่จะส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นเวทีที่จะช่วยกระตุ้นและกระจายการค้าการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
“ทีเส็บ” ได้วางแนวนโยบายการดำเนินงานส่งเสริมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) ของประเทศไทยซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของอุตสาหกรรมไมซ์ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ พร้อมๆ กับกระจายการค้าและการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาค โดยได้เร่งผลักดันให้เกิดการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมด้านศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, สงขลา, ขอนแก่น เป็นต้น ตามแนวทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูงที่มีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและบริการของภูมิภาค (Trading and Service Nation)
ล่าสุดได้ผลักดันให้มีการจัดการประชุม UFI Open Seminar in Asia 2016 โดย สมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก หรือ UFI ในระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2559 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขานรับนโยบายรัฐบาลและช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ สมาคมการค้า ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดเล็งเห็นถึงความสำคัญและใช้เวทีการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติเป็นส่วนหนึ่งในการขยายโอกาสการค้าในจังหวัดและภูมิภาค
การสนับสนุนการจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ที่จะจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและยกระดับความรู้ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานโลก โดยจังหวัดเชียงใหม่ไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ่งในห้าเมืองหลักที่ “ทีเส็บ” ได้ส่งเสริมและยกระดับให้เป็นไมซ์ซิตี้แล้ว แต่ยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของไทยในภาคเหนือและเป็นประตูสู่การขยายการค้าไปยังกลุ่มประเทศในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS และ CLMV
“การจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ในครั้งนี้จะช่วยประชาสัมพันธ์ศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นที่ยอมรับและเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติอันจะช่วยต่อยอดผลักดันให้เกิดการกระจายการค้าและการลงทุนไปสู่ระดับภูมิภาคได้ตามแนวนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียนและเป็นหนึ่งในผู้นำของภูมิภาคเอเชีย ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสในการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการในระดับนานาชาติต่อไป” นายนพรัตน์กล่าวในตอนท้าย
ด้าน นายมาร์ค โคเครน ผู้จัดการฝ่ายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก หรือ UFI เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของประเทศไทยมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 27-33 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของภูมิภาคอาเซียนที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 อีกทั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียนยังเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้นตามลำดับ
การจัดงาน UFI Open Seminar in Asia 2016 ในจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานครั้งแรกของ UFI ในฐานะที่ได้เปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เคยจัดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2553 ที่กรุงเทพฯ โดยการจัดงานครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Digital Disruption” เพื่อสะท้อนถึงบทบาทและอิทธิพลของการตลาดยุคดิจิตอลว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการและจะปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติในอนาคตได้อย่างไร
“ภายในงานจะมีหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจมากมายเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกดิจิตอลที่จะมีผลต่อการตลาดใน 10 ปีข้างหน้า เช่น The Outlook of ASEAN Exhibition Market, Digital Trends Shaping Events, Assessing the Impact of Digital Disruption, Mobile Marketing Trend เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการด้านออร์แกไนเซอร์และอีเวนต์ชั้นนำของโลกเข้าร่วมงานประมาณ 220-250 คนจาก 20-30 ประเทศทั่วโลก ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย และอื่นๆ” นายมาร์คกล่าวเสริม
ทางด้าน นางประพีร์ บุรี นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA กล่าวถึงความสำคัญของการจัดงานครั้งนี้ว่า การจัดงานประชุม UFI Open Seminar in Asia 2016 ในครั้งนี้จะเป็นการได้ความรู้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่รวมถึงประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสและสร้างเครือข่ายให้กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไทยเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานที่ต้องการนำเสน่ห์ของความเป็นเชียงใหม่ผ่านการให้บริการอย่างมีคุณภาพควบคู่ไปกับความเป็นมืออาชีพในระดับสากลเพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดงานในจังหวัดเชียงใหม่ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล อันจะเป็นการต่อยอดส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจภาคบริการของไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
“การจัดงานครั้งนี้แม้จะไม่ถือเป็นงานขนาดใหญ่มากนัก แต่ผู้เข้าร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นผู้ประกอบการหลักระดับชั้นนำของโลก หรือ Key Players ในธุรกิจออร์แกไนเซอร์และอีเวนต์ที่สามารถตัดสินใจลงทุนจัดงานต่างๆ ได้ทันที จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยให้สูงขึ้นและเชื่อมโยงในการพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร การท่องเที่ยว การขนส่งและบริการ” นางประพีร์กล่าวในที่สุด