xs
xsm
sm
md
lg

ชูงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์” ดึงนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ คาดสร้างรายได้กว่า 6 พันล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(จากซ้ายไปขวา) “แอนดี้ ดาวเดน” ผู้อำนวยการจัดงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ครั้งที่ 13”, “รศ.ดร.ชวนี ทองโรจน์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ “นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“ภูเก็ต” เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 13 โครงการ มูลค่ากว่า 42.3 พันล้านบาท หวังผลักดันเป็นเกตเวย์สู่ประเทศต่างๆ หลังการเปิดเออีซี เอกชนขานรับจัดงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ครั้งที่ 13” คาดผู้เยี่ยมชมงานกว่า 5 พันคนจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก พร้อมสร้างรายได้รวมกว่า 6 พันล้านบาท

รศ.ดร.ชวนี ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและจากทั่วโลกกว่า 6 ล้านคนต่อปี เป็นจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (Gross Provincial Product) สูงเป็นอันดับสามของประเทศ และกำลังดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 13 โครงการ มูลค่ากว่า 42.3 พันล้านบาท ล่าสุดได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อช่วยสร้างรายได้ทางท่องเที่ยวให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ

จังหวัดภูเก็ตเป็นทั้งจุดหมายปลายทางทางธุรกิจและการท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เป็นรองใครในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในแบบอิสระ หรือกลุ่มอินเซ็นทีฟ โดยภูเก็ตมีโรงแรมมากกว่า 500 แห่งและสนามบินนานาชาติ มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศทั่วโลก และกำลังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว ตลอดจนมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ จึงทำให้ภูเก็ตเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ

“ในแต่ละปีภูเก็ตมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยมากกว่า 50% เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ภูเก็ตจึงเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และขณะนี้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

รศ.ดร.ชวนี กล่าวในตอนท้ายว่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานและการบริการที่ดีตอบรับนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจได้เป็นอย่างดีและมากกว่า 60% ของกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจที่มาเยือนประเทศไทยนั้นเดินทางมาเพื่อจัดงานประชุมและสัมมนาและมาจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยมั่นใจว่าภูเก็ตพร้อมที่จะเป็นเกตเวย์สู่ประเทศต่างๆ หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย

ด้าน นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ในฐานะองค์กรผู้สนับสนุนการจัดงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ครั้งที่ 13” อย่างเป็นทางการ กล่าวว่า “ทีเส็บ” เป็นหน่วยงานรัฐบาลที่ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีจุดมุ่งหมายหลักคือการส่งเสริมการจัดประชุมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลและการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย โดย “ทีเส็บ” ได้จัดให้ภูเก็ตเป็นหนึ่งในไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง และเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเราเล็งเห็นว่าจะมีงานระดับภูมิภาคเข้ามาจัดในเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวพักผ่อนที่ไม่แพ้ใคร

การจัดงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์” ถือเป็นงานแสดงสินค้าทางธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาค รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ, โปรโมชั่น, แคมเปญ, โรดโชว์ และการจับคู่ธุรกิจในกลุ่มประเทศเป้าหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้จัดแสดงสินค้าให้ได้พบปะและพูดคุยทางธุรกิจและกระตุ้นให้กลุ่มผู้ซื้อได้เข้ามาร่วมงานมากขึ้น

นายแอนดี้ ดาวเดน ผู้อำนวยการจัดงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ครั้งที่ 13” กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นงานจัดแสดงเรือและไลฟ์สไตล์งานแรกของวงการธุรกิจทางทะเลและใหญ่ที่สุดในไทยและเป็นงานแสดงเรือนานาชาติที่จัดมาอย่างยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมงานกว่า 5 พันคนต่อปีจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยแต่ละปีงาน “ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์” มีการเติบโตเฉลี่ย 11% สามารถสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลโดยรวมกว่า 6 พันล้านบาท

สำหรับปี 2559 ผู้จัดงานฯ ได้เพิ่มพื้นที่เพื่อจัดโชว์เรือยอชต์บนผืนน้ำมากขึ้นและคาดว่าจะมีเรือกว่า 50 แบรนด์ ทั้งเรือยอชต์ที่เป็นทั้งเรือเครื่องยนต์และเรือใบ ซูเปอร์ยอชต์ และเรือขนาดเล็ก มูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านบาทนำมาแสดงทั้งบนน้ำและภายในศูนย์การจัดแสดงสินค้า รอยัล ภูเก็ต มารีน่า นอกจากนั้นจะมีธุรกิจอีกกว่า 150 บริษัทที่จะมาจัดแสดงสินค้าภายในงานไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู โครงการอสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลและไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้อง

นายแอนดี้ กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นธุรกิจการเช่าเรือซูเปอร์ยอชต์ในไทย เราจึงได้จัดทำไกด์บุ๊กสำหรับการเช่าเรือในรูปแบบดิจิตอล (The Digital Phuket Charter Guide) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้แก่เอเยนซีทั่วโลกกว่า 1 พันราย โดยในไกด์บุ๊กจะมีคำแนะนำเรื่องการขายการเช่าเหมาลำเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์ในเมืองไทยเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและเพื่อทางธุรกิจในภูเก็ต ตลอดจนโปรโมทในเรื่องของไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวทางทะเล คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดรายได้มากกว่า 5 พันล้านสำหรับการท่องเที่ยวในส่วนนี้

อนึ่ง งาน “ภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ต โชว์ ครั้งที่ 13” จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2559 ณ รอยัล ภูเก็ต มารีน่า



กำลังโหลดความคิดเห็น