xs
xsm
sm
md
lg

ไวน์สเปน “Valduero” ซุ่มเจาะลูกค้าพรีเมียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “เจียมพัฒนาฟู้ดฯ” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอน-แอลกอฮอล์ สบช่องตลาดไวน์นำเข้า เปิดตัวไวน์ดังจากสเปน “Valduero” 6 ชนิด เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่นิยมดื่มไวน์แบรนด์ใหม่ๆ พร้อมเตรียมนำเข้าไวน์คุณภาพเพิ่มอีก 4 แบรนด์ และสินค้าอาหารอื่นๆ ในปี 59

นางสาวจันทร์เพ็ญ เจียมสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียมพัฒนาฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนอน-แอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดไวน์นำเข้าในประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10% มีมูลค่าตลาดกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณประมาณ 10 ล้านลิตรต่อปี โดยไวน์นำเข้าจากต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักและนิยมของผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ ได้แก่ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ชิลี และอิตาลี

จากการศึกษาตลาดไวน์นำเข้าในประเทศไทยมาระยะหนึ่ง บริษัทฯ จึงเห็นช่องว่างทางการตลาดและนำเข้าไวน์คุณภาพแบรนด์ “Valduero” จากประเทศสเปนมาทำตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market โดยเบื้องต้นนำเข้าไวน์ขาว 1 ชนิด จำหน่ายราคาขวดละ 1,150 บาท และไวน์แดง 5 ชนิด ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1.6 พันบาทจนถึง 1 หมื่นบาทขึ้นไป โดยวางจุดยืนให้แบรนด์เป็นไวน์ในระดับพรีเมียม มีชื่อเสียงในด้านความสม่ำเสมอของการรักษาคุณภาพมายาวนานจากประเทศสเปน และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จึงตั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับพรีเมียมที่มีฐานะทางสังคม มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการสังสรรค์ รักการดื่มไวน์ นิยมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดื่มไวน์แบรนด์ใหม่ๆ

“ในช่วงปีแรกเราคาดหวังยอดขาย 1 แสนขวด คิดเป็นมูลค่า 135 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1% ของตลาดรวม โดยตั้งเป้าเติบโตขั้นต่ำ 10% พร้อมมีแผนที่จะนำเข้าไวน์คุณภาพระดับพรีเมียมของประเทศสเปนเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 4 แบรนด์ รวมถึงสินค้าอาหารอื่นๆ เช่น แฮมสไลซ์ ชีส น้ำมันมะกอก ตลอดจนสแน็กประเภทมันฝรั่ง” นางสาวจันทร์เพ็ญกล่าว

หลังจากเริ่มทำตลาดมาได้ประมาณ 2 เดือนพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บริษัทฯ จึงกำหนดงบประมาณการตลาดประมาณ 10 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมโรดโชว์ พร้อมร่วมออกงานแสดงสินค้าเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยในระยะแรกจะเน้นทำตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนขยายไปยังหัวเมืองใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมของชาวต่างชาติ เช่น หัวหิน พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่

นางสาวจันทร์เพ็ญกล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ ใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าฟูดเซอร์วิสหรือ “โฮเรก้า” ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยงในสัดส่วนเท่าๆ กัน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซเพิ่มเติม โดยได้เตรียมพนักงานดูแลให้ข้อมูลและตอบคำถามผู้สนใจ รวมทั้งตอบสนองคำสั่งซื้ออย่างรวดเร็วผ่านช่องทางสื่อสารเฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และไลน์ พร้อมจัดบริการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างเร็วที่สุด เพื่อความสะดวกสบายและความพึงพอใจของลูกค้า



กำลังโหลดความคิดเห็น