บอร์ดต่างด้าวอนุมัติต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเดือน พ.ย. 34 ราย ขนเงินเข้ามาลงทุน 479 ล้านบาท และจ้างแรงงานคนไทย 413 คน
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยเดือน พ.ย. 2558 จำนวน 34 ราย ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่ยื่นขออนุญาตครั้งแรกจำนวน 16 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 7 ราย หรือเพิ่มขึ้น 26% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2557 เพิ่มขึ้น 3 ราย หรือเพิ่มขึ้น 10% โดยต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจจำนวน 479 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทยจำนวน 413 คน
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่
1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม จำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 44 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 140 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้คำปรึกษาแนะนำและบริหารจัดการ บริการติดตั้ง ซ่อมแซม บำรุงรักษา และรับจ้างผลิต เป็นต้น เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์
2. ธุรกิจสำนักงานผู้แทน จำนวน 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจการลงทุนให้สำนักงานใหญ่ รองลงมาเป็นการให้คำแนะนำและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่และบริษัทในเครือ เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และสาธารณรัฐประชาชนจีน
3. ธุรกิจที่เป็นคู่สัญญา/คู่สัญญาช่วงกับรัฐวิสาหกิจ จำนวน 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 253 ล้านบาท ได้แก่ บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้งและทดสอบ ระบบสถานีไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบป้องกันกระแสไฟฟ้า และระบบรางไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้า ให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นคนต่างด้าวจากประเทศจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์
4. ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 25 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องมือแพทย์ เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ โปแลนด์ และแคนาดา
5. ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต มีเงินลงทุนจำนวน 37 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกเครื่องจักร อุปกรณ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และการค้าปลีกเครื่องรูดบัตรเครดิตและบัตรเดบิต เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซีย
ในช่วง 11 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-พ.ย.) คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้วจำนวน 370 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 13,488 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 15 ราย หรือลดลง 4% และเงินลงทุนลดลง 48,028 ล้านบาท หรือลดลง 78% เนื่องจากในปี 2557 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจบริการทางการเงินอื่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง