“กฟผ.” เผยทิศทางค่าไฟปี 2559 ขาลงจากค่าก๊าซฯ ที่ปรับลดตามทิศทางน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือน คาดหวังโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เดินหน้าตามกรอบพร้อมจ่ายไฟได้ปี ธ.ค. 62
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟกับประชาชนเฉลี่ยปี 2559 นั้นมีทิศทางขาลงตามราคาก๊าซธรรมชาติที่จะปรับลดลงสะท้อนต้นทุนตามราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน รวมถึงราคาถ่านหินที่ปรับลดเช่นกัน ทำให้ต้นทุนการผลิตแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่อาจจะต้องติดตามคืออัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน หรือโซลาร์ฟาร์มค้างท่อที่จะเข้ามาในระบบเพิ่มเติมซึ่งจะมีผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“โซลาร์ฟาร์มค้างท่อคาดว่าจะมีเข้าระบบในสิ้นปีนี้อีก 1,000 เมกะวัตต์ รวมกับโซลาร์ที่มีอยู่เดิมอีก 1,000 เมกะวัตต์ ก็จะมีเข้าระบบปีหน้าราว 2,000 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 10% ของกำลังการผลิตที่มีอยู่ และอาจมีผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะมีต้นทุนที่สูงกว่าก๊าซฯ และถ่านหิน ส่วนการผลิตไฟจากพลังงานน้ำจากเขื่อนเป็นเพียงผลพลอยได้ เพราะเป้าหมายหลักคือการทำการเกษตรปีหน้าก็คงจะลดลงเพราะปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยจากภัยแล้ง ส่วนอากาศปีหน้าที่คาดว่าจะร้อนจัดและร้อนนาน โซลาร์ก็น่าจะมาเสริมจุดนี้ได้บ้าง และปริมาณสำรองไฟฟ้าของ กฟผ.เองก็ยังไม่มีปัญหา” นายสุนชัยกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 870 เมกะวัตต์ ตั้งบนพื้นโรงไฟฟ้ากระบี่เดิมขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกผู้รับเหมาที่จะทำควบคู่ไปกับรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการไตรภาคีแล้วอยู่ระหว่างนัดประชุมครั้งแรก ขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ กฟผ.ยังคาดว่าจะเป็นไปตามกรอบเดิมที่กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ใน ธ.ค.ปี 2562