xs
xsm
sm
md
lg

สเต๊ก “ซานตา เฟ่” รุก AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สุรชัย ชาญอนุเดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด
ผู้จัดการรายวัน360 - สเต๊ก “ซานตา เฟ่” รุกหนัก จดทะเบียนพร้อมลุยตลาดเออีซี นำร่องกัมพูชาที่ “อิออน มอลล์” ชูกลยุทธ์แต่งตั้งคนต่างชาติที่ทำธุรกิจในพื้นที่เป้าหมายรับสิทธิ์แฟรนไชส์

นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด ผู้บริหารร้านสเต๊กแบรนด์ “ซานตา เฟ่” ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมแผนรุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้จดทะเบียนชื่อ “ซานตา เฟ่ สเต๊ก” ไปแล้วในทุกประเทศในเออีซี ยกเว้นสิงคโปร์กับบรูไน โดยคาดว่าในปี 2560 จะเริ่มดำเนินการได้ด้วยกลยุทธ์การแต่งตั้งนักลงทุนต่างประเทศที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศเป้าหมายนั้นๆ ให้เป็นผู้ถือสิทธิ์แฟรนไช์ส์ โดยไม่เน้นนักลงทุนท้องถิ่น

สำหรับประเทศแรกที่จะทำตลาดคือ กัมพูชา ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มทุนธุรกิจต่างชาติที่ทำธุรกิจในกัมพูชาประมาณ 3 ราย คาดว่าจะสรุปได้ในปีหน้า แต่ขณะนี้ได้พื้นที่ไว้แล้วคือ “อิออน มอลล์” พื้นที่ร้านประมาณ 150 ตารางเมตร และหลังจากนั้นจะไปต่อที่เวียดนาม

ส่วนแผนธุรกิจในประเทศไทยจะขยายการลงทุนต่อเนื่องในปี 2558 ด้วยการเปิดสาขาใหม่ 20 แห่ง แบ่งเป็นการลงทุนของบริษัท 5 แห่งและแฟรนไชส์ 5 แห่งเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดสเต๊กที่มีการเติบโตเฉลี่ย 25% จากมูลค่าตลาดรวม 5 พันล้านบาท โดยคาดว่าในอีก 5 ปีจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่คู่แข่งในตลาดโดยตรงยังมีไม่มาก โดยบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำอันดับ 1 ในแง่จำนวนสาขาคือ 90 แห่ง แต่เป็นอันดับ 2 ในแง่รายได้รองจาก “ซิซซ์เล่อร์”

ในปี 2558 บริษัทฯ มีการใช้งบตลาด 70 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้รวมมีประมาณ 1.25 พันล้านบาท เติบโต 25% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี โดยในปี 2559 จะใช้งบตลาด 130 ล้านบาท พร้อมขยายอีก 30 สาขา แบ่งเป็นของบริษัทฯ และแฟรนไซส์เท่ากัน ทำให้ในสิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 120 แห่ง มีรายได้รวม 1.9 พันล้านบาท จากนั้นในปี 2560 จะใช้งบตลาด 140 ล้านบาทและเพิ่มสาขาอีก 30 แห่ง รวมเป็น 150 สาขา พร้อมรายได้รวม 2.4 พันล้านบาท ขณะที่ในปี 2561 จะใช้งบตลาด 150 ล้านบาท ขยายสาขารวม 180 แห่ง เป็นของบริษัทและแฟรนไชส์เท่ากัน มีรายได้รวม 3 พันล้านบาท

“ในปี 2559 บริษัทฯ จะรุกตลาดหนักขึ้น พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ใช้งบ 70% อีก 20% เป็นสื่อกลางแจ้ง และ 10% เป็นสื่อออนไลน์ โดยจะทำโปรโมชั่นถี่ขึ้นเป็น 2 เดือนครั้ง จากเดิม 2 เดือนครึ่งต่อครั้ง พร้อมจะออกเมนูราคาต่ำประมาณ 20% เป็นช่วงๆ” นายสุรชัย กล่าวในตอนท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น