xs
xsm
sm
md
lg

กรมทรัพย์สินทางปัญญาประสาน กทม.-รถไฟฯ-ผู้ว่าฯ ห้ามให้ใช้พื้นที่วางแผงขายของปลอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมทรัพย์สินทางปัญญาตั้งเป้าปราบสินค้าละเมิดให้สิ้นซาก ประสาน กทม. รถไฟฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ห้ามให้ใช้พื้นที่วางแผงขายของปลอม พร้อมลุยจับเต็มที่ โชว์ผลงาน 8 เดือนจับแล้ว 5.3 พันคดี ของกลางเฉียด 3 ล้านชิ้น มั่นใจแผนปราบปรามเข้ม บวกผลงานด้านอื่น ลุ้นไทยมีสิทธิ์หลุดบัญชี PWL ในการพิจารณาปีหน้า

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพราะยังมีการตรวจสอบพบว่ามีผู้ค้าได้เช่าพื้นที่ทำการจำหน่ายสินค้าละเมิดอีกเป็นจำนวนมาก และกระจายออกไปนอกเหนือจากจุดจำหน่ายเดิมที่เป็นพื้นที่สีแดงที่กรมฯ ได้เข้มงวดจับกุมจนสินค้าละเมิดลดลงและบางพื้นที่แทบจะไม่มีการวางจำหน่ายสินค้าละเมิด

“การจำหน่ายสินค้าละเมิดได้เปลี่ยนรูปแบบการขายจากแหล่งเดิมๆ เป็นกระจายไปยังตลาดนัด ตลาดในท้องถิ่น กรมฯ จึงได้ทำการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เพื่อช่วยกันดูแลและป้องกัน ไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่จำหน่ายสินค้าละเมิด ซึ่งถือเป็นการป้องกันในชั้นต้น จากนั้นกรมฯ จะมีการตรวจสอบ และเมื่อพบก็จะร่วมมือกับตำรวจ ศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการปราบปรามอย่างจริงจังต่อไป”

ทั้งนี้ ผลการจับกุมในช่วง 8 เดือนของปี 2558 (ม.ค.-ส.ค.) ทั้งการจัดชุดจรยุทธ์ออกจับกุมทุกวัน การจัดชุดระดมกวาดล้างในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ การจัดชุดตรวจสอบพื้นที่สีแดง และการจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ สามารถจับกุมได้ 5,913 คดี ยึดของกลางได้ 2,918,973 ชิ้น แยกเป็นการจับกุมโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5,357 คดี ของกลาง 829,917 ชิ้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ 24 คดี ของกลาง 660,387 ชิ้น และกรมศุลกากร 532 คดี ของกลาง 1,428,669 ชิ้น

นางนันทวัลย์กล่าวว่า การดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพราะสินค้าละเมิดไม่มีต้นทุน แต่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งการเข้มงวดปราบปรามไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อไทย ที่จะมุ่งไปสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม แต่ยังมีผลดีต่อการพิจารณาสถานะด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาผลการดำเนินงานของไทย

“ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯ ซึ่งท่านก็แสดงความเห็นว่าที่ผ่านมาไทยได้ดำเนินการตามข้อที่สหรัฐฯ เป็นห่วงได้ครบถ้วน ทั้งการปราบปราม การแก้ไขกฎหมาย การเร่งรัดการจดสิทธิบัตร และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมาย ได้แก้กฎหมายป้องกันการแอบถ่าย การป้องกันการละเมิดทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ขณะนี้กำลังรอดูผล ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็มีความคืบหน้า ซึ่งกรมฯ กำลังรวบรวมผลการทำงานทั้งหมด ก่อนที่จะเสนอให้สหรัฐฯ พิจารณา และหวังว่าไทยจะหลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ได้ในการพิจารณาปีหน้า”

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาของไทย กรมฯ มีแผนที่จะเสนอให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นวาระแห่งชาติ มีการจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินการ และระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้มีซูเปอร์บอร์ด มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน มีกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ เข้ามาร่วมกันทำงานตามแผน

นางนันทวัลย์กล่าวว่า สำหรับการสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนในด้านทรัพย์สินทางปัญญา กรมฯ มีแผนที่จะรณรงค์ปลุกจิตสำนึกไม่ซื้อ ไม่หา ไม่ใช้ของปลอมให้แก่นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนสร้างสรรค์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ครูและนักเรียน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดความรู้ ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการรณรงค์ด้วยแนวทางที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น การทำป้ายแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่สนามบินนานาชาติห้ามนำสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเข้าไปในยุโรป การติดป้ายรณรงค์ต่อต้านสินค้าปลอมบนรถไฟฟ้า การทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น